หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานำสู่การจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการจัดเก็บค่าส่วนแบ่งการขาย (ค่า GP) ที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มส่งอาหาร(ฟู้ดเดลิเวอรี่) เรียกเก็บจากร้านอาหารที่เข้าร่วมในแอปพลิเคชั่นในอัตรา 30-35% อ้างว่าเพื่อความเป็นธรรมและเหมาะสม โดยจะเร่งพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็วนั้น แหล่งข่าววงในจากวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ เผยว่า หากมีการควบคุมหรือกดดันให้ปรับลดค่า GP ลงจริง จะส่งผลกระทบต่อพนักงานส่งอาหาร(ไรเดอร์) และผู้บริโภค เนื่องจากผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ทุกเจ้ายังคงขาดทุน จากการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งด้านเทคโนโลยี การตลาดและการทำโปรโมชั่น หากภาครัฐปรับลดค่า GP ทางผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคงต้องหาทางลดต้นทุน เพราะไม่สามารถแบกรับปัญหาขาดทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดค่าตอบแทนหรือค่ารอบของคนขับ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 25-50% หรือการปรับขึ้นราคารองรับค่าแรงไรเดอร์ และต้นทุนต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ไลน์แมน วงใน กล่าวว่า คงต้องรอดูท่าทีของภาครัฐว่าจะมีนโยบายเรื่อง GP อย่างไร หากบังคับให้ลดค่าGP ก็มีโอกาสจะทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าขนส่งเพิ่มขึ้นส่วนตัวอยากให้ภาครัฐได้ดูโมเดลการแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกันของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ขอให้แพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยลดค่า GP ลงมา และจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนต่างที่หายไปจากค่า GP ให้แพลตฟอร์มซึ่งเป็นวิธีที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ทั่วกันไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ลูกค้า ไรเดอร์ หรือแพลตฟอร์ม
ส่วนผู้บริหาร Food panda เสริมว่า ที่ผ่านมา บริษัทและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่นๆ เคยให้ความร่วมมือกับภาครัฐปรับลดค่า GP ชั่วคราวมาแล้ว แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะยอดขายและรายได้ของร้านอาหารลดลง เนื่องจากค่า GP ถือเป็นต้นทุนการดำเนินงานในการทำโปรโมชั่นและการโปรโมทร้านค้า เมื่อถูกลดค่า GP การส่งเสริมการขายต่างๆ จึงถูกตัดทิ้งไป ขณะที่ไรเดอร์เองก็มีรายได้ลดลงเพราะจำนวนคำสั่งซื้อมีน้อยลง ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ไม่ได้รับโปรโมชั่นดีๆ อย่างที่เคยได้รับ
ด้านตัวแทนไรเดอร์ นายอรรถพล คล้ายเอ็ม หนึ่งในแกนนำ “กลุ่ม Grab เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน” กล่าวว่า การลดค่า GP นอกจากจะกระทบคนขับโดยตรงแล้ว ยังส่งผลถึงผู้ใช้บริการและภาพรวมธุรกิจอาหารด้วย เพราะถ้ารายได้ของแพลตฟอร์มหายไปจากการลดค่า GP บริษัทก็ต้องมาลดค่ารอบคนขับ นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คนขับที่ได้รับผลกระทบรวมตัวกันออกไปแสดงพลังให้ภาครัฐได้รับรู้ถึงปัญหา และถ้าไม่มีทางออกที่ดีหรือรายได้ของคนขับไม่คุ้มค่า คงต้องมีคนขับจำนวนไม่น้อยหยุดให้บริการและหันไปทำอาชีพอื่นและจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในที่สุด เพราะเมื่อมีคนส่งอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรอนานหรืออาจจะไม่มีคนให้บริการเลยในช่วงโควิดฯ
ด้าน นายธนากร พลอยแสง แอดมินเพจ “กูขับ LINEMAN RIDER” กล่าวว่า ตนและสมาชิกในกลุ่มฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดปรับลดค่า GP เพราะท้ายที่สุดย่อม
มีผลกระทบมาถึงกลุ่มไรเดอร์ โดยเฉพาะอาจถูกปรับลดค่ารอบและหากคำสั่งของภาครัฐมีผลบังคับใช้ครอบคลุมไปทั่วประเทศจะทำให้ไรเดอร์ในต่างจังหวัดที่ได้รับค่ารอบต่ำกว่าในกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่กันอย่างยากลำบาก ทั้งนี้ ผลจากโควิดฯและนโยบายล็อกดาวน์ของรัฐบาล จึงมีคนจำนวนมากหันมาประกอบอาชีพไรเดอร์ ทำให้ไรเดอร์เดิมถูกแย่งงานจนรายได้ต่อวันลดลงไปมาก หากมีการปรับค่า GP จนไรเดอร์ต้องถูกลดค่ารอบอีกเชื่อว่าจะต้องมีไรเดอร์จำนวนมากออกมาประท้วงแน่นอน
ด้าน นางสาวกีรตยา กำลังมาก เจ้าหน้าที่สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย หนึ่งในตัวแทนผู้บริโภคที่ใช้บริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นฟู้ดเดลิเวอรี่ กล่าวว่าค่า GP ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสั่งซื้ออาหารของมากนัก เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาจากโปรโมชั่น เช่น ส่วนลดค่าอาหารหรือส่วนลดค่าส่ง เป็นหลัก โดยปกติตนจะเลือกสั่งอาหารจากร้านที่มีราคาถูกที่สุดอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐจะปรับลดค่า GP เพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและยังอาจสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ไรเดอร์หยุดให้บริการหรือเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน ทำให้ต้องรออาหารนานขึ้น หรืออาจต้องเสียค่าบริการเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไรเดอร์จัดส่งอาหารให้เร็วขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี