นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธานเปิดงาน “LiVE Demo Day : The New Road to Capital Market” จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมปาฐกถาพิเศษตอกย้ำการส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) หรือเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

นายอาคมกล่าวว่า จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไปทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ยังได้ส่งผลต่อภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังได้ออกนโยบายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อให้สถาบันการเงินเหล่านี้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในโครงการพักการชำระหนี้เป็นเวลาสองเดือน และมาตราการอื่นๆ

ปัจจุบันภาครัฐบาลได้เตรียมการเพื่อจะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลับมามีความก้าวหน้าอีกครั้ง เมื่อการระบาดนี้จบลง และแม้ว่าโควิด-19 ระบาดก็ไม่ได้ทำให้ภาครัฐเปลี่ยนเป้าหมายไปแต่อย่างใด ซึ่งยุทธศาสตร์ที่ภาครัฐได้วางไว้เพื่อเป็นรากฐานแห่งการเติบโตในระยะยาวของประเทศ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมโดยการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสโดยถ้วนหน้า เพราะคาดว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้นอาจจะไม่เท่ากันในทุกภาค และยิ่งทำให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมรุนแรงขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเกี่ยวกับความต่อเนื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ประเทศไทยควรจะปรับโครงสร้างและสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบสนองกับความต้องการของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ สร้างความเข้มแข็งและความสามารถการแข็งขันสำหรับธุรกิจ
เอสเอ็มอี เนื่องจากมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย เพราะคิดเป็น 42% ของมูลค่า GDP ทั้งหมด รัฐบาลกำลังเดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ เปิดโอกาสให้เข้าถึงเม็ดเงินลงทุนได้ และสร้างโอกาสที่เข้าร่วมในการจัดซื้อของภาครัฐ