บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)จำกัด แจ้งข่าวว่า บริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดนำโดย มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานในพิธีเพื่อแสดงความยินดี และมอบรางวัลให้แก่นิสิตนักศึกษาฝึกงานที่สำเร็จหลักสูตรในโครงการนักศึกษาฝึกงานประจำปี 2564 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรเจียศิริพงษ์กุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ชรินพาณิชกุลรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อิทธิเศก นิลกำแหง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเทศ และองค์กรสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รองศาสตราจารย์ ดร.เพชร เจียรนัยศิลาวงศ์ รองคณบดีฝ่ายบริหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เปี่ยมภูมิสฤกพฤกษ์ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมด้วยผู้บริหารจาก มิตซูบิชิมอเตอร์ส ประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธี โดยโครงการนักศึกษาฝึกงานนี้ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษาจากทั่วประเทศได้เข้ามาฝึกงานร่วมกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำและส่งออกรายใหญ่ของประเทศไทย เพื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ส่งเสริมการนำความรู้จากห้องเรียนมาประยุกต์ใช้กับการลงมือปฏิบัติงานจริงโดยทำงานร่วมกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เตรียมความพร้อมสู่การทำงานในอนาคตภายหลังจบการศึกษา
มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในโอกาสที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ดำเนินธุรกิจครบ 60 ปี ในประเทศไทยในปีนี้ เรายังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม“สรรสร้างเคียงข้างสังคมไทย”ทั้งยังได้มีการจัดตั้ง “มูลนิธิมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย” ขึ้นในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อมุ่งมั่นดำเนินงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมใน 3 ด้านหลักสำคัญ ได้แก่ 1)สิ่งแวดล้อม 2) สุขภาพและชีวอนามัย 3)การศึกษา และจริยธรรม เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน
โดย “โครงการนักศึกษาฝึกงาน” ถือเป็นโครงการภายใต้แกนหลัก“ด้านการศึกษาและจริยธรรม”ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยได้เข้ามาเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์จากการปฏิบัติงานจริง ในระหว่างภาคการศึกษากับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่บริษัทภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเยาวชนไทยที่มีคุณภาพสู่สังคมไทย
“เราเชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติงานจริงทำให้มีความรู้ในกระบวนการผลิตรถยนต์ ตลอดจนธุรกิจยานยนต์จากการฝึกงานจริงในภาคสนาม เรามั่นใจว่านักศึกษาที่ผ่านการฝึกงานที่มิตซูบิชิ มอเตอร์สประเทศไทย จะได้รับทั้งความรู้ ประสบการณ์การทำงานที่มีคุณภาพที่บริษัทฯ ได้มอบให้ รวมถึงยังได้เสริมสร้างศักยภาพของตัวเองเพื่อให้มีทักษะสามารถนำกลับไปต่อยอดอาชีพในอนาคตได้ และบริษัทฯ ยินดีที่จะต้อนรับนักศึกษาฝึกงานที่สำเร็จการศึกษาแล้วกลับเข้ามาทํางานกับเราอีกด้วย”มร.โคอิโตะ กล่าวเพิ่มเติม
รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ชรินพาณิชกุล รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขอขอบคุณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และ มูลนิธิมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่นิสิตนักศึกษาไทย การพัฒนานิสิตจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายไม่ได้เลย หากปราศจากการให้การสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่า นิสิตจะได้ฝึกฝนพัฒนาตนเอง รวมถึงได้เพิ่มทักษะที่สำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพที่ตอบรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
นางสาวศวิตา หาวิริยะ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ดิฉันตั้งใจมาฝึกงานที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยเพราะอยากนำความรู้ที่ได้จากการฝึกงานไปพัฒนาชมรมแมคคาทรอนิกส์สำหรับโปรเจกท์หุ่นยนต์วิ่งตามเส้นตรวจจับเส้นทางโดยใช้เซ็นเซอร์ ดิฉันขอขอบคุณบริษัทฯ ที่จัดโครงการฝึกงานนี้ ทำให้พวกเราได้มาเรียนรู้การทำงานต่างๆ เพื่อที่จะพัฒนาตนเองต่อไป และถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาทำงานที่มิตซูบิชิมอเตอร์ส ประเทศไทยค่ะ
โครงการนักศึกษาฝึกงาน (MMTh Talent Internship Program) จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Ambition to Rise” โดยเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการนักศึกษาฝึกงานไปแล้ว 36 คน มีจำนวนโครงการที่คิดค้นขึ้นทั้งหมด 32 โครงการโดยโครงการนักศึกษาฝึกงานประจำปีพ.ศ. 2564 รอบเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้มีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวน 9 คนจาก 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สำหรับนักศึกษาที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการโดยจะเปิดรับสมัครในเดือนมีนาคม และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานทรัพยากรบุคคล และบริหารทั่วไปโทรศัพท์ 0-3849-8000 ต่อ 8261 หรือ 8270
เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ทั่วโลก และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์สประเทศไทยได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์สประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่จ.ปทุมธานี และฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมาและโดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิมอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และมิตซูบิชิเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจชมหรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศหรือมิตซูบิชิคอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี