นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการจำหน่ายสินค้าและการผลิตของหลายๆ อุตสาหกรรมลดลงกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนำของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมจึงมีนโยบายส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการครบวงจรตั้งแต่การเสริมสร้างความรู้และทักษะในการดําเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการใหม่การบ่มเพาะ โดยผ่านศูนย์บ่มเพาะ การเสริมสร้างความเข้มแข็งและผลิตภาพโดยการพัฒนาองค์ความรู้และการให้คําปรึกษาแนะนำ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพสินค้า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสวนกระแส โดยได้อานิสงส์จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าบนช่องทางอี-คอมเมิร์ซการปรับเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าหลายประเภท รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ต่างๆที่ผู้ประกอบการหลายธุรกิจต้องพึ่งพาบริการในการรับส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น
จากการติดตามการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พบว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ปริมาณการผลิตบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 6% หรือ 1,528,636 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ที่มีการผลิต 1,442,065 ตัน ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.52% หรือ 1,541,466 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมีปริมาณ 1,346,056 ตัน (ที่มาศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สศอ.) นอกจากนี้ยังพบว่าบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก และที่ผลิตจากกระดาษยังคงโตต่อเนื่อง และมีทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุปสงค์การจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางในหลายสาขาอุตสาหกรรมอีกด้วย
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม กล่าวว่า ปีนี้ดีพร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการเร่งยกระดับมูลค่าสินค้าผ่านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สอดรับกับยุคอี-คอมเมิร์ซ การค้าขายผ่านระบบเดลิเวอรี่ผ่านโครงการ “ดีพร้อมแพค : บรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์วิถีใหม่” (The Next Diprom Packaging : DipromPack) ภายใต้ นโยบาย “ผลิตให้ใช้ เพื่อขายจริง” โดยมีมาตรการให้ความช่วยเหลือ ด้านการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบและพัฒนาตราสินค้า ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ ตามคอนเซ็ปต์ ดี...ปรับแบบเดิมให้ดียิ่งขึ้น พร้อม... ออกแบบใหม่เพื่อการเริ่มต้น แพ็กเกจ... คุ้มค่า ไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยมี 2 แนวทางในการช่วยเหลือ ได้แก่1.การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโอกาสการเติบโตในตลาดผู้บริโภคที่กำลังให้ความนิยมกับช่องทางการค้าขายใหม่ด้วยการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ลดขั้นตอนการผลิต และเตรียมความพร้อมในการจัดจำหน่าย-ขนส่งจากผู้ผลิตถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย และสามารถใช้ได้นาน 2.จัดทำบรรจุภัณฑ์เพื่อนำไปใช้จริงในรูปแบบและจำนวนที่เหมาะสม ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจการ
โครงการดังกล่าว มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมจำนวนกว่า 300 ราย โดย 60% ต้องการปรับปรุงผลิตภัณฑ์/การขาย เพื่อสอดคล้องกับวิถี Next Normal หรือวิถีชีวิตใหม่ ส่วน 25%ต้องการที่จะสร้างภาพจดจำผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ และ 15% เป็นผู้ประกอบการใหม่ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบผลิตภัณฑ์สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินงาน ทั้งนี้โครงการได้ช่วยออกแบบและพัฒนาตราสินค้าฉลาก บรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงการสนับสนุนด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงยังมีอานิสงส์ต่อความนิยมและความต้องการของบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ และมีผลต่อปัจจัยเลือกซื้อสินค้า
ประกอบด้วย 1.บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECO-FRIENDLY 2. บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขอนามัย Hygienic packaging 3.บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงและทนต่อระบบการขนส่ง 4.บรรจุภัณฑ์ที่รับประทานได้ เป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่ออกแบบให้รับประทานได้หรือมีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี