"จุรินทร์"เผยประชุมอาเซียนซัมมิท 26-28 ต.ค.บรูไนเตรียมส่งไม้ต่อให้กัมพูชา แนะอาเซียนควรผนึกกำลังรับมือสงครามการค้าของกลุ่มมหาอำนาจ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนการลงพื้นที่ "จุรินทร์ ออนทัวร์" จ.สตูล , จ.พัทลุง และ จ.ตรัง
โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมอาเซียนซัมมิท วันที่ 26 - 28 ต.ค.ซึ่งปีนี้บรูไนเป็นเจ้าภาพ และหลังการประชุมจะมีการส่งมอบประธานอาเซียนให้กับกัมพูชาต่อไป ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ มีหลายวงนอกจากการประชุมอาเซียนซัมมิท จะมีการประชุมระหว่างอาเซียน จีน เกาหลี สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออก อินเดียและรัสเซีย เป็นต้น จะมีการหารือกันโดยเฉพาะช่วงอาเซียนซัมมิท คือ การประชุมระดับผู้นำประเทศ จะมีทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ประเด็นสำคัญ เช่น การหารือเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด BCG โมเดล เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จุดยืนอาเซียนต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก บทบาททางสร้างสรรค์ให้กับสถานการณ์ในเมียนมา ความร่วมมือทางเทคโนโลยีนวัตกรรมระหว่างอาเซียนกับกลุ่มประเทศต่างๆ รวมทั้งการแก้ปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีอย่างสร้างสรรค์ เป็นต้น
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักใหญ่จะเป็นเรื่องของ BCG โมเดล (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งจะมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ที่เข้าไปมีบทบาทหลัก เรื่องเศรษฐกิจจะเป็นส่วนประกอบเพราะเป็นหนึ่งใน 3-4 ประเด็นใหญ่ทั้ง การเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง เป็นต้น ตนคิดว่าสิ่งที่ประเทศไทยรวมทั้งอาเซียนจะต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด ประเด็นหนึ่ง คือ ความขัดแย้งทางการค้าและการเมืองโลกระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้ง สหรัฐฯ อียู จีน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ที่กำลังมีปัญหาในขณะนี้ ตนอยากเห็นอาเซียนติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิดเพราะนอกจากจะมีผลกระทบทางด้านการเมืองของภูมิภาค อาจจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจตามมา ไทยและอาเซียนควรได้มีการหารือกำหนดจุดยืนร่วมกัน เพื่อจะได้มีพลังในการติดตามสถานการณ์และเดินหน้าทางเศรษฐกิจต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เรื่อง CPTPP ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ภาคเอกชนอยากให้เดินหน้า ภาคประชาสังคมยังมีข้อโต้แย้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเคยเสนอไปและพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คือ เราควรดำเนินการอย่างน้อย 2 ประเด็น ประเด็นที่หนึ่ง การหาข้อสรุปจากที่คณะกรรมาธิการของสภาเสนอมาว่าแต่ละกระทรวงแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีประเด็นใดบ้างที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นหรือมีการบ้านกี่ข้อ ซึ่งคณะกรรมการชุดท่านรองฯดอน ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายควรมีข้อสรุปในเรื่องนี้ว่า หนึ่งกระทรวงมีการบ้านกี่ข้อทำไปแล้วกี่ข้อ เพื่อจะได้หาข้อสรุปว่าสุดท้ายหน่วยราชการต่างๆมีความพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์ จะได้นำมาสู่การพิจารณาต่อไปได้ ประเด็นที่สอง คณะกรรมาธิการชุดท่านรองฯดอน ควรจะได้ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างฝ่ายต่างๆที่ยังมีความเห็นไม่สอดคล้องกันอยู่เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจดำเนินการต่อไปให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับเรื่องเปิดประเทศทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องเดินหน้าไปตามนโยบายและทุกฝ่ายต้องเตรียมความพร้อม สำหรับการเดินหน้าให้เป็นไปตามนโยบาย สำหรับตนคิดว่าการแก้ปัญหาโควิดกับเศรษฐกิจต้องทำควบคู่กันไป เราจะไปทิ้งเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ ที่สำคัญเมื่อสถานการณ์โควิดค่อนข้างทรงตัวและเบาบางลง ตนคิดว่าภารกิจของทุกคนคือ เราจะต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตโควิดไปให้ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเพราะฉะนั้นปัจจัยหลัก คือ ความสมดุลระหว่างการแก้ปัญหาโควิดกับเศรษฐกิจอยู่ตรงไหน เราควรเดินไปทางนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี