“PTT Trading” หรือ “หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ปตท.” มีภารกิจครอบคลุมตั้งแต่การจัดหา การนำเข้า การส่งออก และการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ น้ำมันดิบ คอนเดนเสท ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ก๊าซธรรมชาติเหลว ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ตัวทำละลาย เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งให้บริการบริหารความเสี่ยงด้านราคา และจัดหาการขนส่งระหว่างประเทศ มีเป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทการค้าสากลชั้นนำของโลก และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทย

ซึ่งคำว่า “การค้า (Trading)” จะแตกต่างจากคำว่า “การตลาด (Marketing)” กล่าวคือ การค้า หมายถึง การซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) เช่น น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ปิโตรเคมี จาก Seller เพื่อขายและส่งมอบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งต้องบริหารจัดการความแตกต่างทั้งในด้านของเวลา คุณภาพ ราคา การขนส่ง รวมไปถึงต้องมีการบริหารจัดการเพื่อปิดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ การตลาด หมายถึง การขายสินค้าที่มีให้ถึงมือลูกค้า ภายใต้ราคาที่คุ้มค่าและเหมาะสม

ตัวอย่างอาชีพในสายงาน Trading ด้านพลังงาน เช่น “Trader” มีหน้าที่ศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดซึ่งจะมีความไม่สมดุลระหว่าง Supply และ Demand ในแต่ละภูมิภาค โดย Trader จะมองหาโอกาสที่จะทำการค้าข้ามภูมิภาคในช่วงที่ตลาดเอื้ออำนวย (Arbitrage Opportunity) พร้อมวางกลยุทธ์ พบปะผู้ค้า บริหารความเสี่ยงด้านราคา และทำข้อตกลงให้เกิดการซื้อขาย

“Trading Operations” ทำหน้าที่ด้านปฏิบัติการด้านการค้าระหว่างประเทศ บริหารจัดการงานปฏิบัติการการค้า ดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ เพื่อให้เกิดการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญารวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จ้างเรือขนส่งสินค้า การเก็บ/ส่งเอกสารสำคัญทางบัญชีและกฎหมาย และ “Charterer” ผู้จ้างเรือ เป็นผู้วิเคราะห์ตลาดและปัจจัยที่เกี่ยวกับการขนส่งทั้งหมด เพื่อประกอบการดำเนินการจัดหาการขนส่ง รวมไปถึงการบริหารสัญญา การควบคุมตรวจสอบการขนส่งสินค้า เป็นต้น

การดำเนินงานของ PTT Trading คือการมองสถานการณ์ตลาดที่มีความไม่สมดุลระหว่าง Supply และ Demand ในแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาคอยู่ตลอดเวลา และจับจังหวะในการซื้อสินค้าจากผู้ที่มีความต้องการขายหรือผู้ที่มีสินค้าส่วนเกิน (Seller) เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าหรือผู้ที่มีความต้องการซื้อสินค้านั้นๆ (Buyer) ในช่วงเวลาที่เหมาะสม รวมถึงบริหารจัดการทั้งการขนส่งและการบริหารความเสี่ยงด้านราคา (Price Hedging) ในกรณีที่โครงสร้างราคาซื้อและราคาขายแตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  

โดย PTT Trading มีการควบคุมความเสี่ยงตาม Best Practice ที่บริษัทการค้าชั้นนำในระดับสากลใช้เป็นแนวปฏิบัติ โดยสร้างความสมดุลทั้งในด้านความคล่องตัวของการทำการค้า การตรวจสอบถ่วงดุลและการควบคุมความเสี่ยงในการทำธุรกรรมการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการควบคุมความเสี่ยงในลักษณะ 3 มิติ คือ 1.การควบคุมกำกับโดยนโยบาย มีคณะกรรมการกำกับดูแล กำหนดกรอบการค้า และนโยบายการบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการให้สินเชื่อ

2.การควบคุมโดยโครงสร้างและหน้าที่ จัดโครงสร้างให้มีการควบคุมและถ่วงดุลกันเอง ภายใต้การกำกับจากนโยบายและระเบียบบริษัท และ 3.การควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการควบคุมและตรวจสอบธุรกรรมแบบ Real Time และ Transparency

โดย PTT Trading  มีสำนักงานในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้าครอบคลุมทุกภูมิภาคของโลก เพื่อติดตามข้อมูลและสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อประสานงานกับลูกค้าและคู่ค้าของ ปตท. ในภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการทำธุรกิจในภูมิภาคนั้นๆ ได้แก่

1.PTT Public Company Limited ประเทศไทย 2.PTT International Trading Pte Ltd (PTTT) สำนักงานที่ประเทศสิงคโปร์ รับผิดชอบภูมิภาคตะวันออกไกล (Far East) 3.PTT International Trading London Ltd (PTTT LDN) สำนักงานที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร รับผิดชอบภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา และ 4.PTT International Trading USA Inc. (PTTT USA) ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา รับผิดชอบการค้าในทวีปอเมริกา

5.PTT MEA Ltd (PTT MEA) สำนักงานที่กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับผิดชอบการค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางและตลาดซื้อขายอนุพันธ์ล่วงหน้าของอาบูดาบี (ICE Futures Abu Dhabi: IFAD) และ 6.PTT International Trading Shanghai Representative Office สำนักงานที่นครเซี่ยงไฮ้ รับผิดชอบตลาดในประเทศจีน

PTT Trading ได้มีการวางแผนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่สอดคล้องกับนโยบาย Go Green ศึกษาธรุกิจด้านพลังงานสะอาด และ Net Zero Emission ตลอดจนศึกษาเกี่ยวกับตลาด Carbon Credit เพื่อช่วยบริหารด้าน GHG Emission Reduction ให้กับกลุ่ม ปตท. ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่ของ ปตท. “Powering Life with Future Energy and Beyond” อันมีเป้าหมายอยู่ที่ “ความยั่งยืน” ของคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในระดับประเทศและระดับสากล