ธนารักษ์ลุยที่พักอาศัยผู้สูงอายุ  เล็งจัดสรรที่ดินราชพัสดุทำโปรเจกท์ต่อ

ธนารักษ์ลุยที่พักอาศัยผู้สูงอายุ เล็งจัดสรรที่ดินราชพัสดุทำโปรเจกท์ต่อ

วันพุธ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (senior complex) บนพื้นที่ราชพัสดุ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล  ในการพัฒนา“ที่พักอาศัย ผู้สูงอายุรามา-ธนารักษ์”ซึ่งเป็นการนำพื้นที่ราชพัสดุมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ  โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย

สำหรับการดำเนิน โครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร เพื่อดูแลผู้สูงวัย  เป็นโครงการนำร่อง  จัดสร้าง "ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์" ขณะนี้ยังมีห้องคงเหลือ 407 ห้อง  จากทั้งหมด 921 ห้อง หลังจากเปิดจองสิทธิไปรอบใหม่แล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ถึง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564   ใน 3 ระดับราคา ตั้งแต่  ระดับราคา 1.82 ล้านบาท มีห้องคงเหลือ  60 ห้อง  ระดับราคา 1.99 ล้านบาท มีห้องคงเหลือ  207 ห้อง  ส่วนระดับราคา 2.10 ล้านบาท จำนวน 23 ห้อง จองเต็มหมดทุกยูนิตแล้ว ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้สูงอายุ และประชาชนที่มีรายได้น้อยที่จองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง


โครงการ “ที่พักอาศัย ผู้สูงอายุรามา - ธนารักษ์” ยังมีโรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาสนับสนุนในการ ดูแลด้านสุขอนามัย รักษาพยาบาลให้กับผู้สูงอายุ ถือเป็นโครงการนำร่องที่เป็นแบบอย่างให้องค์กร ส่วนราชการ และภาคเอกชน สามารถนำรูปแบบไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ โครงการนี้ จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีพื้นที่ตั้งโครงการ มีระบบสาธารณูปโภคสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในทำเลปลายสายเส้นรถไฟฟ้าสีเขียว และมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เชื่อมั่นว่าจะมียอดจองเข้ามาเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทำให้เป็นเมืองต้นแบบ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ หากมีประชาชนที่ต้องการเพิ่ม กรมธนารักษ์ ยังสามารถจัดสรรที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในลักษณะได้อีก

ปัจจุบันที่ดินราชพัสดุประมาณ 12 ล้านไร่ กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค ดังนั้นนโยบายรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการนำที่ดินของภาครัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชน ทั้งการจัดสรรที่ดินเพื่อทำกิน และสร้างเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน นับเป็นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุให้มีศักยภาพและยังเป็นโครงการนำร่องในการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้มีแผนปรับจำนวนยูนิตและขนาดของพื้นที่ใช้สอยให้ตรงกับความต้องการของตลาด ที่ต้องการเข้ามาพักอาศัยในโครงการดังกล่าว โดยได้มอบให้บริษัทสถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด หารือร่วมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์  (ธพส.) ปรับเปลี่ยนออกแบบห้องพักให้ใหญ่ขึ้น โดยยุบรวมห้องขนาดเล็ก 2 ห้อง เพื่อให้ได้พื้นที่เป็นห้องขนาดใหญ่ 1 ห้อง ขนาด 45-47 ตารางเมตร ซึ่งจะได้พื้นที่ที่เหมาะสมกับที่ผู้สูงอายุจะได้อยู่สะดวกสบายเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันได้ ให้ ธพส. เร่งจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ รวมถึงแผนการให้บริการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรผ่านรูปแบบอนิเมชั่นออกมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ชมก่อนตัดสินใจและทำการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านช่องทางต่างๆ เพิ่มขึ้น ผ่านทาง LINE Official , Facebook และเพิ่มสื่อทีวีโดยใช้สื่อของรัฐนำเสนอความคืบหน้าการก่อสร้าง รูปร่างโครงการ ซึ่งจะสร้างการรับรู้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว แบ่งออกเป็นพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ต่างๆ ประกอบด้วย  3 โซน คือ 1.โซนศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะ ผู้สูงอายุแบบครบวงจร และบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice Zone) 2.พื้นที่สำหรับผู้สูงอายุ ที่ต้องการการพักฟื้น หรือ ฟื้นฟูสุขภาพ (Nursing Home Zone)  3.ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจร และบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายและพื้นที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing Zone) หากโครงการแล้วเสร็จจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและผู้สูงอายุและประชาชนให้ได้รับความเป็นอยู่ที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top