นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงยอดการจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนตุลาคม 2564 ว่า ในเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนของผู้ประกอบธุรกิจที่มายื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 5,555 ราย โดยลดลง 5% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2563 ทั้งนี้พบว่ามีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 21,965.41 ล้านบาท สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 605 ราย คิดเป็น 11% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 280 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร จำนวน 203 ราย คิดเป็น 4% ซึ่งติดอันดับ 3 ต่อเนื่องมาแล้ว6 เดือนติดต่อกัน ทั้งนี้เป็นไปตามการขยายตัวของธุรกิจโลจิสติกส์และการค้าออนไลน์
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,976 ราย เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน2564 เพิ่มขึ้น 31% และเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2563 ลดลง 4% โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 148 รายคิดเป็น 7% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 97 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขายสลากกินแบ่ง จำนวน 67 ราย คิดเป็น 3%และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 207,653.57 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทุนของบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ที่จดเลิก จำนวน 199,479.57 ล้านบาท เนื่องจากได้โอนกิจการและทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่วันที่25 ตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ต่อการประกอบธุรกิจ
สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม-ตุลาคม) มีจำนวน 63,611 ราย เพิ่มขึ้น14% ทุนจดทะเบียน 194,523.84ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ มีจำนวน 10,725 ราย ลดลง 14% ทุนจดทะเบียน 252,861.77 ล้านบาท ลดลง 353.96% ทั้งนี้มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 จำนวนทั้งสิ้น 809,410 ราย โดยมีมูลค่าทุนรวมจำนวนทั้งสิ้น 19.26 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การจดตั้งบริษัทใหม่มีแนวโน้มฟื้นตัว มาจากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น จำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจในการขับเคลื่อนธุรกิจ และยังมีการจัดตั้งบริษัทใหม่รองรับนโยบายการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบธุรกิจ และยังประเมินว่าในไตรมาส 4 ปี 2564 จะยังมีแนวโน้มดีขึ้นอีก โดยกรมฯคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในปี 2564 จำนวน 65,000–70,000 ราย แต่แนวโน้มน่าจะเกิน 70,000 ราย
นายทศพล กล่าวว่า กรมได้ทำการวิเคราะห์การจดทะเบียนทำธุรกิจใหม่ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจที่มีการตั้งใหม่เพิ่มขึ้นและน่าจับตา คือ ธุรกิจปลูกข้าว มีการตั้งใหม่ จำนวน 610 ราย เพิ่มขึ้น20 เท่า เพราะรัฐบาลผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ธุรกิจสร้างแม่ข่าย จำนวน 435 ราย เพิ่มขึ้น 9 เท่า เพื่อรองรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ธุรกิจปลูกพืชประเภทเครื่องเทศ เครื่องหอม ยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์ จำนวน 174 ราย เพิ่มขึ้น 8 เท่า ตามการสนับสนุนและนโยบายรัฐบาล ทั้งการใช้สมุนไพรรักษาโรค ป้องกันโควิด-19 และปลดล็อกกัญชาให้สามารถขออนุญาตปลูก ผลิตนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ครอบครอง และจำหน่ายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี