นางพรรณสุภา ยุทธภัณฑ์บริภาร รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยถึง สถานการณ์การขายโครงการบ้านเอื้ออาทรว่า ตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงขณะนี้ ยอดการขายยังทำได้ต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาคือ การซื้อคืนโครงการบ้านเอื้ออาทรจากสถาบันการเงินที่ยึดคืนมาจากลูกค้ามีปริมาณเพิ่มขึ้นจาก 450 หน่วย (ยูนิต)ต่อเดือน เป็น 500 ยูนิต ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากสถานะทางการเงินของลูกค้าที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้หมุนเงินผ่อนชำระไม่ทันตามระยะเวลาที่สถาบันการเงินกำหนด เพราะลูกค้าเข้าใจผิดคิดว่าสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยเฉพาะงวดที่ส่งล่าช้าเท่านั้น จึงส่งผลให้มียอดการซื้อคืนเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในโอกาสครบรอบ 40 ปี กคช. จึงได้พิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ถูกซื้อคืนให้ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านเอื้ออาทรอีกครั้ง ด้วยการทำสัญญาเช่าซื้อกับ กคช. โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขายสำหรับลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ถูกซื้อคืนตามที่ กคช.กำหนด คือ ให้ลูกค้าขอทำสัญญาเช่าซื้อกับ กคช. ซึ่งลูกค้าจะได้รับส่วนลดพิเศษ 5,000 - 30,000 บาท (เฉพาะลูกค้าที่ผ่อนชำระกับสถาบันการเงินมาแล้วมากกว่า 1 ปี)

ทั้งนี้ส่วนลดพิเศษดังกล่าวจะต้องไม่เกินราคาขายส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นของอาคารหลังนั้นๆ และลูกค้าจะต้องชำระดอกเบี้ยซื้อคืนจากสถาบันการเงิน รวมทั้งชำระค่าเสียหายวันละ 100 บาท นับจากวันที่ถูกซื้อคืนจนถึงวันที่ลงนามในสัญญาเช่าซื้อกับกคช. โดยมีกำหนดให้ลูกค้ายื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2556 และจะต้องมาทำสัญญาเช่าซื้อภายใน 15 วันทำการนับจากวันที่ยื่นคำร้อง