นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดทำโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมการตลาดให้เกษตรกร สหกรณ์โคนม และผู้ประกอบการนมโคแปรรูปของไทย ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ลดภาษีนำเข้าสินค้านมโคและนมโคแปรรูปให้ไทยเหลือ 0% แล้ว ในการทำตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสสูง
“การช่วยหาตลาดให้เกษตรกรนมโคและผู้ประกอบการสินค้านมของไทย เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น เพราะสินค้านม เป็นหนึ่งในสินค้าที่ไทยต้องเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันในตลาดโลกที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโครงการนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้านม ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับการแข่งขัน แต่ยังช่วยสร้างโอกาสในการออกไปทำตลาดต่างประเทศโดยใช้ประโยชน์จาก FTA ด้วย” นายสินิตย์กล่าว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า โครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งปีนี้ ได้พัฒนารูปแบบการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 มากขึ้น โดยได้จัดอบรมบูธแคมป์ติวเข้มเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ผ่านมาตรฐานส่งออกของไทยและต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการโคนมที่ผ่านการคัดเลือก 5 ราย จะได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าจีน
และทำ Live Sale จำหน่ายผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มเถาเป่าของจีนด้วย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมได้จัดประกวดนำเสนอแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิสัยทัศน์ และคณะกรรมการได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ 5 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัด 2.บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด 3.บริษัท บุณยเกียรติ ไอศกรีม จำกัด 4.บริษัท แมรี่แอน แดรี่โปรดักส์ จำกัด และ 5.สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด โดยคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ เช่น เป็นผู้ที่กระบวนการผลิตได้รับมาตรฐานการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงาน GACC ของจีน และได้รับมาตรฐาน EST จากกรมปศุสัตว์ ที่พร้อมส่งออกไปตลาดจีน มีการใช้วัตถุดิบน้ำนมจากเกษตรกรภายในประเทศ มีความพร้อมส่งออกไปตลาดจีน มีการใช้นวัตกรรมในการผลิตที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดจีนได้ รวมทั้งมีแผนธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออก และมีการวางแผนกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์และออฟไลน์หลังจากนี้ กรมจะนำผู้ประกอบการทั้ง 5 ราย เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ในวันที่ 25 มกราคม 2565 คาดว่าจะสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 7 ของโลก ในช่วง 10 เดือนของปี 2564 (มกราคม-ตุลาคม) ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลก มูลค่า 486.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6% ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 407.4ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 2.6% ฮ่องกง มูลค่า 21.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 13.2% จีน มูลค่า 20.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 2.0% และกานา มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 40.8% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต และนม UHT เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี