นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 3 ปี 2564 ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย โดยในไตรมาส 3 ปี 2564 มีทั้งหมด 1,755 หน่วย ลดลง 13.1% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) และลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์เฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19(ปี 2563-2564) จำนวน 2,059 หน่วย/ไตรมาสกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนมีการระบาด (ปี 2561-2562)3,296 หน่วย/ไตรมาส พบว่าจำนวนหน่วยโอนเฉลี่ยช่วงที่มีการระบาดลดลง 37.5% สำหรับมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในไตรมาส 3 ปี 2564 ทั่วประเทศ พบว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,265ล้านบาท ลดลง 2.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)และลดลง 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับจำนวนหน่วย และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 (ปี 2563-2564) มูลค่า9,637 ล้านบาท/ไตรมาส กับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนการระบาด (ปี 2561-2562) มูลค่า 13,483 ล้านบาท/ไตรมาส พบว่าค่าเฉลี่ยในช่วงการแพร่ระบาดลดลงถึง 28.5%
ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาท จำนวน3,445 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.2%รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท มีมูลค่า 1,862 ล้านบาท 20.1%) ระดับราคา 5.01-7.50 ล้านบาท มีมูลค่า 1,651 ล้านบาท (17.8%) ระดับราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท มีมูลค่า 1,439 ล้านบาท (15.5%) และระดับราคา 7.51-10.00 ล้านบาทมีมูลค่าน้อยที่สุด คือ 868 ล้านบาท (9.4%) ตามลำดับ
ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีน 3,760 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 61.4% ของหน่วยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ รัสเซีย 228 หน่วย (3.7%) ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา 197 หน่วย(3.2%) สหราชอาณาจักร 194 หน่วย (3.2%) และฝรั่งเศส 172 หน่วย (2.8%) ตามลำดับ
หากพิจารณาย้อนหลังไปจนถึงปี 2561 จะพบว่า ชาวจีนยังคงเป็นสัญชาติที่นิยมซื้อห้องชุดในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ มีสัดส่วนในแต่ละปีสูงกว่า 50% ของหน่วยทั้งหมด รองลงมาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยมีสัดส่วนไม่ถึง 7% สัญชาติที่นิยมเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 9 เดือนแรกของปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ
ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด 17,800 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 59.9% ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ วานูอาตู 1,011 ล้านบาท(3.4%) ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา 864 ล้านบาท (2.9%) สหราชอาณาจักร 732 ล้านบาท (2.5%) และฝรั่งเศส 711 ล้านบาท (2.4%) ตามลำดับเป็นที่น่าสังเกตว่า ชาววานูอาตู มีมูลค่ารับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสะสมใน 9 เดือนแรกของปี 2564 สูงสุดเป็นลำดับที่ 2 แต่มีหน่วยสะสมเพียง 23 หน่วย คิดเป็นมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 44 ล้านบาท
ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ3,246 หน่วย (53.0%) และชลบุรี 1,738 หน่วย (28.4%) ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 81.4% ของทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี