‘จุรินทร์’สั่งเบรก
ห้ามขึ้นราคา‘ไข่ไก่-เนื้อไก่’
ให้กรมการค้าภายในติดตาม
ปชช.จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาด่วน
“จุรินทร์”รองนายกฯ-รมว.พาณิชย์ เบรกห้ามขึ้นราคา“ไข่ไก่-เนื้อไก่”สั่ง“กรมการค้าภายใน”ติดตาม เผย เตรียมเสนอของบกลาง แก้ปัญหาหมูแพง ส่วนบรรยากาศวันแรกหลัง“ไข่ไก่”ปรับขึ้นราคา
หลายตลาดทั่วประเทศเงียบเหงา บางแห่งปรับขึ้นแล้ว ผู้ซื้อ-ผู้ขาย โอด จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา ด้านนายกสมาคมผู้เลี้ยง แจงไข่ไก่ ขึ้นราคา ขาดทุนมานาน ยันขายได้ ไม่เกินเพดานพาณิชย์ ขณะที่ ‘เรือคลองแสนแสบ’ปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 1บาทเริ่ม14มกราคมานี้ หลังอั้นมากว่า600วัน
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะ”ราคาไข่ไก่” และ”เนื้อไก่”ที่ทยอยปรับราคาขึ้นนั้นว่าขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว ซึ่งอาจมีการฉกฉวยขึ้นราคา ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบาย เพื่อป้องกัน ไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก
นายจุรินทร์ยืนยันด้วยว่าได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในไปติดตาม “ราคาเนื้อไก่”และ”ไข่ไก่”เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีที่เนื้อหมูได้ขึ้นราคาไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังจะต้องช่วยเหลือดูแลกับเกษตรกรรายย่อยด้วยโดยจะต้องสมดุลกันระหว่างผู้บริโภค และเกษตรกรรายย่อย
ส่วนการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากเนื้อหมูขึ้นราคาไปแล้ว นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่าขณะนี้มีโครงการ”ธงฟ้าลดราคา”ที่กำหนดราคาหมูเนื้อแดงไว้คงที่ในกิโลกรัมละ150 บาทพร้อมเตรียมเสนอของบกลาง จากนายกรัฐมนตรีเพื่อเร่งมาชดเชยราคาในโครงการฯที่ตรึงไว้ 150บาทต่อกิโลกรัมและอุดหนุนกับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงหมูต่อไปและไม่ให้เกิดภาวะหมูขาดแคลนในอนาคต ในวันพรุ่งนี้(11ม.ค.)จะชี้แจงด้วยวาจาให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบก่อนในเบื้องต้น
นายจุรินทร์ยอมรับว่าการพิจารณานำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยเฉพาะจะต้องระมัดระวังโรคติดต่อ ที่มากับหมูและสุขอนามัย รวมถึงข้อกฎดันทางการค้าอื่น ๆ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากทางสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละไซซ์หน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3 บาทเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมนี้ ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายซื้อกับข้าวเช้าในหลายตลาดทั่วประเทศค่อนข้างเงียบเหงา
ในตลาดหทัยมิตรเขตคลองสามวา กทม.ซึ่งเป็นตลาดสดขายส่ง ขายปลีก มีประชาชนซื้อหาไข่ไก่เพื่อนำไปประกอบอาหารบางตา และเงียบเหงาซึ่งพ่อค้าแม่ค้าไข่ไก่บางราย ได้ขยับขึ้นราคาไปแล้ว
ขณะที่ร้านบ้านไข่ ถนนพระองค์ขาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายปรีชา อิ่มเอม เจ้าของร้านบ้านไข่ กล่าวว่าร้านเตรียมปรับราคาขึ้นภายใน1-2วัน เบื้องต้น คาดว่าราคาที่ปรับนี้น่าจะยาวไปจนถึงช่วงสงกรานต์เดือนเมษายนนี้ ราคาน่าจะลดลง ทางผู้ค้าพยายามพยุงราคาไม่ให้ถึงฟองละ 3.50 บาท ต่อฟอง เพราะจะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคอย่างมาก
ด้านผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ได้ตรึงราคาขายจากเนื้อหมูแพงและเนื้อไก่ที่ขยับขึ้นตามมา เห็นใจลูกค้าว่าจะเดือดร้อน แต่ช่วงเช้าราคาไข่ไก่ ปรับราคาขึ้น เตรียมปรับราคาอาหารเพิ่มขึ้น ครั้งนี้คงตรึงราคาเดิมไว้ไม่ไหว ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงมากเกินไป ยังไม่รู้จะขายต่อได้หรือไม่ หากราคาสูงคนซื้อ จะลดลง หากไม่ขึ้นราคาก็จะขาดทุน
ขณะที่ตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ตลาดสดใจกลางเมืองแปดริ้ว พบว่าประชาชนออกมาจับจ่ายเนื้อสัตว์ และไข่ไก่ค่อนข้างบางตาและเงียบเหงา พ่อค้าขายไข่ไก่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปรับขึ้นราคาเพราะเป็นไข่เก่าที่ไปรับมายังขายไม่หมด หากขายไข่ไก่ชุดนี้หมดต้องปรับขึ้นราคาตามที่มีการประกาศขึ้นราคาไข่หน้าฟาร์ม ส่วนเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไข่แม่อีฟ ซึ่งเมนูอาหารเกือบ90เปอร์เซ็นต์ ต้องมีไข่ไก่ ยอมรับว่า ได้ปรับราคาโดยเพิ่มขึ้น5บาท 7 บาท และ10บาท แล้วแต่เมนู
สำหรับตลาดสดศรีเมืองทองและตลาดโบ๊เบ๊เทศบาล2 ใน จ.ขอนแก่น ช่วงเช้าก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา หลังมีการขึ้นราคาไข่ไก่เป็นวันแรก นายทศวรรษ ศรีหนา เจ้าของร้านเจ๊ไก่ระบุว่าราคาไข่ที่ร้านยังไม่ปรับขึ้นเนื่องจากซื้อมาตุนไว้เมื่อ2วันและวันนี้อาจจะปรับราคาขึ้นตามต้นทุน ยอมรับว่าขายไม่ค่อยดี ส่วนมากจะเป็นลูกค้าประจำที่มาซื้ออยู่ตลอด อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยดูแลราคาให้ถูกลงด้วย
อย่างไรก็ดี พบว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยจัดการควบคุมราคาทั้งราคาหมูและราคาไข่ไก่ ให้ต้นทุนจากฟาร์ม ค่าขนส่ง ราคาถูกลงเนื่องจากตอนนี้เดือดร้อนมากจริงๆโดยด่วน
ด้านนายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่กล่าวถึงกรณีไข่ไก่มีราคาสูงขึ้นว่าในส่วนราคาไข่ไก่ที่สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ แจ้งราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3.00บาท ตั้งแต่วันนี้(10 ม.ค.65) เป็นการปรับขึ้นจากฟองละ2.80บาทซึ่งสาเหตุที่ต้องปรับขึ้น เนื่องจากผู้เลี้ยงขาดทุน จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากราคาอาหารสัตว์ ยาสัตว์และค่าจัดการต่างๆโดยเฉพาะอาหารสัตว์ ที่ยังไม่มีแนวโน้มลดลงจึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น ส่วนต้นทุนการผลิตไข่ไก่ที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์(Egg Board)ประเมินเมื่อเดือนพ.ย.2564 อยู่ที่ฟองละ2.87บาทซึ่งสมาคมฯพยายามตรึงราคาที่2.80บาทไว้ให้นานที่สุด จนกระทั่งไม่ไหว ต้องปรับราคาไข่ไก่ขึ้น หากไม่ปรับ ผู้เลี้ยงจะอยู่ไม่ได้ ต้องเลิกเลี้ยงแน่นอน
ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลว่าราคาไข่ไก่จะสูงต่อเนื่องจนเป็นภาระผู้บริโภคเนื่องจากEgg Boardมีมติกำหนดเพดานราคาจำหน่ายหน้าฟาร์มไม่เกิน20%ของต้นทุน ราคาไข่คละหน้าฟาร์มต้องไม่เกิน 3.44บาทต่อฟองและมั่นใจว่าราคาจะไม่ขึ้นไปถึงขนาดนั้น เนื่องจากไข่ไก่เป็นสินค้าที่ปรับตัวขึ้นและลงตามความต้องการบริโภคเป็นวงรอบอยู่แล้ว โดยช่วงปิดเทอมและเทศกาลกินเจซึ่งอัตราการบริโภคลดลงราคาก็จะปรับลดไปด้วยเช่นกัน ส่วนปริมาณการเลี้ยงไก่ไข่ในประเทศ เท่าที่ตรวจสอบน่าจะมีประมาณ50ล้านตัวได้ผลผลิตไข่ไก่วันละ40 ล้านฟอง บริโภคในประเทศส่วนใหญ่ มีบางส่วนที่ส่งออกต่างประเทศแต่ไม่มาก
ขณะที่นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง(2002)จำกัดเปิดเผยว่าเรือคลองแสนแสบได้ประกาศปรับราคาค่าโดยสารระยะละ1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมนี้จาก 8 , 10, 12, 14, 16, 18 บาท เป็น 9, 11, 13, 15, 17, 19 บาท เนื่องจากอัตราน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงขึ้น โดยทางเรือคลองแสนแสบได้พยายามตรึงค่าโดยสารมากว่า 600วันหรือเกือบ2ปี โดยปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุด ตั้งแต่ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ25บาทแต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในฐานะผู้ประกอบการจึงไม่สามารถดึงราคาได้ต่อไป ทั้งนี้ การปรับค่าโดยสารดังกล่าวเป็นไปตามประกาศของกรมเจ้าท่าซึ่งอ้างอิงตามอัตราน้ำมันดีเซล มีเพดานอัตราราคาน้ำมันระบุอยู่ แต่เรือคลองแสนแสบไม่เคยปรับค่าโดยสารสูงถึงเพดานที่กำหนดไว้