ดีลอยท์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการวิชาชีพด้านการสอบบัญชี การบริหารจัดการการเงิน ความเสี่ยง ภาษีและกฎหมาย เผยแพร่ผลสำรวจภาคธุรกิจไทยกับการเตรียมพร้อมรับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2565 หลังจากเลื่อนออกจากกำหนดการเดิม 2 ปี
สำหรับความพร้อมตามกำหนดบังคับใช้ในเดือนมิ.ย. พบว่า 81% กล่าวว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามอย่างเต็มรูปแบบ หรือคาดว่าจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวมีกฎข้อบังคับอย่างเข้มงวด รวมถึงการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ให้การสนับสนุนในเรื่องการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าธนาคาร
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว คือความเกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รองลงมาคือการเสียชื่อเสียงและสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตัวขับเคลื่อนส่วนใหญ่เกิดจากกฎเกณฑ์ข้อบังคับมากกว่าผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลให้องค์กรต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา
นายแอนโทนี่ วิเศษ โลห์ พาร์ทเนอร์ที่ปรึกษาด้านภาษีและกฎหมาย ดีลอยท์ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ก่อนการบังคับใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว องค์กรควรให้ความสำคัญกับความพร้อมในด้านกฎหมายเป็นอันดับแรกๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี