ฟังอีกมุมจากBTS!ปมร้อนฉ่า‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ เตรียมฟ้องทวงหนี้อีก 2 หมื่นล้าน
9 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวถึงกรณีการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี ว่า เราเป็นบริษัทเอกชนมีหน้าที่ปฏิบัติตามสัญญา ตอนนี้มีสัญญาว่าจ้างให้เดินรถอยู่ เราได้ปฏิบัติตามสัญญาอย่างครบถ้วนมาโดยตลอด แม้ตอนนี้ยังไม่ได้รับการชำระเงินค่าจ้าง เรื่องของสัมปทานเป็นเรื่องที่บริษัทให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด หนี้มูลค่า 30,000 ล้านบาทที่เกิดขึ้นมาจากการให้บริการจริงกับประชาชน ทั้งการเดินรถและการติดตั้งระบบ
ทั้งนี้ การต่อสัมปทานเป็นเรื่องที่รัฐพยายามจะแก้ปัญหาหนี้ที่ กทม. รับภาระค่าก่อสร้างโยธามาจาก รฟม.มูลค่า 60,000 ล้านบาท และเรื่องค่าโดยสารที่จะให้เก็บค่าโดย สาร 65 บาทตลอดสาย จากหลักเกณฑ์เดิม คือ 158 บาทตลอดสาย ซึ่งรัฐพยายามแก้ไขปัญหาโดยเจรจากับทาง BTS การต่อสัญญาสัมปทานเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ในเรื่องของการเดินรถ ทางเราก็อยากให้รัฐบาลจัดการช่วยเหลือในเรื่องของหนี้สินที่ยังค้างอยู่ ตอนนี้มูลค่าเกือบ 40,000 ล้านบาทแล้ว เป็นภาระใหญ่สำหรับบริษัท เราไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับประชาชน โดยพยายามเดินรถอย่างเต็มที่
“เราเป็นเอกชนจะเป็นอย่างไรก็ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร จะให้เราเป็นผู้รับจ้างเดินรถต่อไปก็ไม่มีปัญหา ขอแค่ให้ชำระค่าจ้าง ส่วนที่จะใช้สัมปทานมาให้ BTS ช่วยลดภาระของประชาชน ภาระตรงนี้ค่อนข้างเยอะ มูลค่าหลายแสนล้าน ไม่ใช่แค่ 30,000-40,000 ล้านบาทอย่างที่พูดกันทั้งเรื่องหนี้สินที่ กทม.แบกรับแทน รฟม. ภาวะขาดทุนที่เกิดจากการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย เป็นเวลา 10 ปี รวมทั้งภาระดอกเบี้ยเงินกู้ และ BTS ยังต้องแบ่งรายได้ให้ กทม.ตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี เป็นแสนล้านบาท โดยเราได้มีการทวงถามหนี้สินหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 ได้ยื่นฟ้องทวงหนี้กทม.ในส่วนของค่าดำเนินการเดินรถ 12,000 ล้านบาท ขณะนี้เรากำลังเตรียมฟ้องทวงหนี้ในส่วนของค่าติดตั้งระบบเดินรถอีก 20,000 ล้านบาท” นายสุรพงษ์ กล่าว
-005