พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)หรือบอร์ดอีอีซีครั้งที่ 2/2565 ว่าได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนงานอีอีซี ด้วยความรอบคอบ ถูกต้องตามกฎหมาย รวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและสถานการณ์โลก โดยเชื่อมั่นว่าทุกคนจะร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการต่างๆ ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่าที่ประชุมได้พิจารณาให้สกพอ.ร่วมกับ กองทัพเรือ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) หรือ สสปน.จัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย (Thailand InternationalAir Show) ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานและส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวศูนย์กลาง(ฮับ)ด้านอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค เกิดแรงจูงใจกับนักลงทุน และเชื่อมโยงนักธุรกิจในอุตสาหกรรมการบินระดับโลกเข้ามาลงทุนในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เกิดการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจเสริมแกร่งการลงทุนเข้าสู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ตามเป้าหมายเม็ดเงินลงทุน 2.2
ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี
การจัดงานฯ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2568 สอดคล้องกับระยะเวลาเปิดบริการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา คาดว่าจะมีผู้ร่วมงาน 5,425 คน จัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2570 จะมีผู้เข้าร่วมงาน 36,300 คนมีผู้เข้าแสดงงานประมาณ 1,240 ราย โดยจะมีการจัดงานที่เกี่ยวข้องทั้งงานใหม่และงานที่จัดต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปี 2566-2570 เมื่อรวมมูลค่าทางเศรษฐกิจของงาน ThailandInternational Air Show ทั้งหมดจะสร้างรายได้ 8,200 ล้านบาทนอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบโครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและผู้ค้ารายย่อยในอีอีซี นำเทคโนโลยีมาส่งเสริมสินค้าโอท็อป (OTOP) เพิ่มศักยภาพการขยายช่องทางจำหน่ายให้ตรงตามความต้องการของตลาด รวมทั้งช่วยหาแหล่งเงินทุนให้ผู้ค้ารายย่อยชุมชน พร้อมตั้งกลุ่มเป้าหมายและสินค้าที่นิยมในพื้นที่นำร่อง อย่างน้อย 10 ชุมชน
สำหรับการพิจารณาสิทธิประโยชน์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดึงการลงทุนสู่พื้นที่อีอีซี ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ เป็นการกำหนดสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมพิเศษ รวม 7 เขต ได้แก่ เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
(EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เขตส่งเสริมรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (EECh)ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรธรรมศาสตร์ (พัทยา) การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา(บางแสน) และศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นสูงบ้านฉาง
สำหรับการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในอีอีซี โดยการลงทุนยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเฉพาะ 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก ได้แก่ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และสนามบินอู่ตะเภา โดยโครงสร้างพื้นฐานหลัก 4 โครงการที่ได้เซ็นสัญญากับเอกชนร่วมทุนแล้วก็เริ่มก่อสร้างแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ดูแลขับเคลื่อนโครงการต่างๆให้ดำเนินต่อไป ส่วนที่มีผลกระทบจริงน่าจะเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่เข้ามาตามที่คาดไว้ส่วนโครงการธีมพาร์คและสวนน้ำโคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์สแห่งแรกของโลกที่จะเปิดตัวระยะที่ 1 วันที่ 8เมษายนนี้ ก็คงต้องขอดูทิศทางโควิดและสงคราม อาจต้องเลื่อนออกไป 1-2 เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี