วงเสวนานโยบายสาธารณะกับปัญหาการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ของ 4 พรรคการเมือง กังวลการควบรวมกิจการทรูและดีแทค ชี้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแน่ วอน กสทช.พิจารณาอย่างรอบด้าน
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 มีการจัดเสวนา นโยบายสาธารณะในการกำกับดูแลการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภค ในหัวข้อ นโยบายสาธารณะกับปัญหาการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ที่จัดขึ้นโดยสภาองค์การผู้บริโภค ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชี รายชื่อพรรคก้าวไกล นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมวงเสวนา โดยยกกรณี ที่จะมีการควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
นายสามารถ เห็นว่าในปัจจุบันผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมกำลังปรับตัว เป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนดลยีดิจิทัล เพื่อรองรับเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ ระบบ AI เทเลเมเนซิส และสมาร์ทซิตี้เป็นต้น ดังนั้นจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มติม และใช้เงินจำนวนมาก ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมที่สามารถลงทุนเพิ่มเติมเพื่อรองรับเทคโนดลยีที่ทันสมัยได้ ก็คือ ผู้ประกอบการที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูง และมีผลประกอบการดี ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการสี่รายหลักคือ บริษัทเอไอเอส ทรู ดีแทค และบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่คิดจารายได้ ไม่ใช่จำนวนซิม นั้นปรากฎว่า เอไอเอส มีร้อยละ 41 ทรูร้อยละ 26.9 ดีแทคร้อยละ 18.4 และ NT มีส่วนแบ่งร้อยละ 3.3 โดยบริษัทเอไอเอสมีกำไรมากที่สุดถึง 2 พันล้านบาท จากกำไรชี้ให้เห็นว่าเอไอเอสเป็นผู้นำตลาดโทนคมนาคมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เห็นศักยภาพในการแข่งขันที่เหนือรายอื่นทุกรายอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่งผลให้ธุรกิจโทรคมนาคมเกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน หรือขาดประสิทธิภาพ ตลาดถูกชี้นำโดยผู้มีศักยภาพที่เหนือกว่า หรือทำให้การแข่งขันบิดเบียว แต่หากรวมกิจการระหว่างทรูกับดีเทค ส่วนแบ่งการตลาดจะเปลี่ยนเป็น เอไอเอส ร้อยละ 41 ทรูและดีแทค ร้อยละ 45.3 และ NT ร้อยละ 13.3 จึงเห็นได้ว่า เอไอเอส ทรู ดีแทค จะมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ NT ยังมีส่วนแบ่งการตลาดยังน้อย เพราะ NT แม้มีมงบถึง 3 แสนล้านบาท แต่ไม่ลงทุนในธุรกิจอย่างจริงจัง ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้การแข่งขันจะสูงผลประโยชน์ย่อมตกไปยังผู้บริโภค เช่นได้ใช้เครือข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น สัญญาณที่เพิ่มขึ้น และศูนย์บริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการควบรวมทรูกับดีแทค จะทำให้มีผู้ประกอบการมีควมาสามารถใกล้เคียงกัน ส่งผลให้มีการแข่งขันเท่าเทียมกัน แต่ กสทช.ต้องเร่งออกกฎระเบียบ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกราย มีการแข่งขันที่เป็นธรรม ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน และเสียภาษีเดียวกัน ดังนั้นส่วนตัวสนับสนุนการแข่งขันที่เป็นธรรมส่งผลประโยชน์ที่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ด้าน นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนตัวสนับสนุนการแข่งขันตลาดเสรี แต่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวมทรูและดีเทค เพราะจะสร้างปัญหาหลายเรื่องที่ตามมา เช่นเป็นการปิดกลั้นคนรุ่นใหม่ หรือผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาแข่งขัน ย่อมเป็นการผูกขาดทางธุรกิจ ซึ่งในต่างประเทศปัญหาการผูกขาดกับริบัทรายใหญ่แทบไม่มี เมื่อมีผู้เล่นน้อยราย ราคาย่อมสูงตามาอย่างแน่นอน โดยผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน และเชื่อว่า กสทช.จะไม่การันตีว่าจะสามารถควบคุมราคาได้หรือไม่ เพราะการลงทุนด้านนี้ยังมีเทคโนโลยีด้านอื่นๆ อีก
สอดคล้องกับ นางสาวศิริกัญญา ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม เพราะเป็นการซ้ำเติมภาระของประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพราะทุกคนย่อมมีค่าใช้จ่ายด้านโทรศัพท์ อย่างน้อยร้อยละ 20 ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ประชาชนแต่มีลูกค้าที่เป็นบริษัทด้วย ที่จำเป็นต้องใช้คลื่นความถี่ในการพัฒนาสินค้า ซึ่งต้องใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น ก็เป็นต้นทุนที่เพิ่ม ดังนั้นการควบรวมทำให้ไม่สามารถยอมรับได้ และคัดค้านอย่างเต็มที่ เพราะปัญหาจะตามมาอย่างแน่นอน คือ การกำกับดูแลในเรื่องนี้
ส่วน นายแพทย์ระวี ยืนยันจุดยืนของพรรคคืออยากเห็นการแข่งขันทางธุรกิจที่เสรี เป็นธรรม ไม่ใช่ปลาเล็กกินปลาใหญ่ และคัดค้านการควบรวมทรูและดีแทค ดังนั้นเมื่อมีข่าวนี้ควบรวมนี้ออกมาตนเองเสนอญัติตินี้ ต่อสภาทันที เพื่อให้มีการศึกษาเรื่องนี้ พร้อมส่งเสริมการลงทุนเอกชนที่เข็มแข็ง เติบโต และพัฒนาแข่งกับต่างประเทศ โดยเมื่อเติบโตต้องไม่ผูกขาด หรือ เกเร จึงขอฝากไปยัง กสทช.ชุดใหม่ ว่า การพิจารณาจะไม่จบลงแบบมวยล้มต้มคนดู และเห็นว่ารัฐบาลจะหาวิธีที่ทำให้การลงทุนในด้านนี้ต่ำลง โดยรัฐบาลเป็นเป็นตัวกลางหรือร่วมลงทุน พร้อมสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้เกิดขึ้นได้ พร้อมทิ้งท้ายว่ารัฐบาลจะเชื่อประชาชนในเรื่องนี้
ขณะที่ นางสาวสุภิญญา ฝากนักการเมืองไปขับเคลื่อนในสภา ขอให้มีการชะลอเรื่องการควบรวมไปก่อน หวังให้พิจารณาหลังการเลือกตั้ง และเรีกยร้อง กสทช.ชุดใหม่ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ขระเดียวกัน คาดหวังว่า NT จะซื้อดีแทค เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อประชาชนได้ประโยชน์
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี