นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวว่า พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2565 มีเจตนา ที่จะไม่สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และวิสาหกิจชุมชน คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเห็นชอบและได้ส่งกฎหมายลูก เพื่อรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีทั้งกฎหมายลูกผ่อนปรน PDPA สำหรับเอสเอ็มอี-วิสาหกิจชุมชน และรวมทั้งเรื่องผ่อนปรนโทษ คาดว่าประกาศมีผลบังคับใช้ต้นสัปดาห์หน้า

“PDPA ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.มีเจตจำนงชัดเจน ที่ต้องการให้ PDPA เกิดประโยชน์กับประชาชน ในขณะเดียวกัน มุ่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีภาระในการปฎิบัติตามกฎหมายน้อยที่สุด สะท้อนการเริ่มบังคับใช้ในช่วงแรก ที่ไม่ควรเป็นภาระมากเกินไป เน้นการให้ความรู้และตักเตือน จากการเร่งรัด ทราบว่า ขณะนี้มีกฎหมายลูก4 ฉบับ ที่ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้เห็นชอบ ในสัปดาห์ที่แล้ว และอยู่ระหว่างรอลงราชกิจจาฯประกาศบังคับใช้ คาดว่าจะลงราชกิจจาฯประกาศใช้ในต้นสัปดาห์หน้า โดยมีเรื่องการผ่อนปรน PDPA สำหรับ เอสเอ็มอี-วิสาหกิจชุมชน และเรื่องการผ่อนปรนโทษที่เน้นการตักเตือนด้วย” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับ (ร่าง) ประกาศชุดแรกที่ปิดรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้เห็นชอบและระหว่างรอการประกาศใช้เป็นกฎหมายลูก ได้แก่1.(ร่าง) ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง การยกเว้นการบันทึกรายการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นกิจการขนาดเล็ก พ.ศ. .... 2.(ร่าง) ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... และ
3.(ร่าง) ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ....4.(ร่าง) ประกาศหลักเกณฑ์มาตรการบังคับและพิจารณาลงโทษทางปกครอง พ.ศ. .....

นอกจากนี้ ยังมี กฎหมายลูกที่สำคัญอีก 4 ฉบับจะทยอยประกาศ บังคับใช้ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการเรื่องกฎหมายลูก ทั้งหมด 8 ฉบับดังกล่าวได้ภายในเดือน มิถุนายน นี้

“ขอเตือนผู้คิดแสวงหาประโยชน์จาก PDPA ในการนำเรื่องไปฟ้องร้อง ก็ต้องระวังการถูกฟ้องกลับ เพราะการตัดสินโทษทางแพ่งและอาญา เป็นกระบวนการของศาล เป็นไปตามการตัดสินและดุลพินิจของศาล ซึ่งมีการพิจารณาจากข้อเท็จจริงต่างๆ พยานหลักฐาน และดูเจตนา” รมว.ดีอีเอส กล่าว