nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้(27 มิ.ย. – 1 ก.ค. 2565)...โดยระบุว่า..ราคาน้ำมันถูกกดดันหลังธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดมีความกังวลการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีความน่าสนใจลดลง สำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันดิบตึงตัวทั่วโลก ยังคงเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซีย ที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการยุติการนำเข้าของสหภาพยุโรป...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 105-115 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 110-120 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล...

nn บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดตัวน้ำมัน “ซูเปอร์ พาวเวอร์” (Super Power) น้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมสูตรใหม่...ทั้งประเภทแก๊สโซฮอล์ และดีเซล พิเศษด้วยสาร “ซูเปอร์ บูสเตอร์” (Super Booster) สารลดแรงเสียดทาน นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ทำความสะอาดหัวฉีดให้สะอาดเหมือนใหม่ได้ 100% ทำให้เครื่องยนต์แรงเต็มกำลัง...โดยมีจำหน่ายทั้งกลุ่มแก๊สโซฮอล์และดีเซล ได้แก่ Super Power Gasohol 95 และ Super Power Diesel B7...

nn คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP...ยืนยันว่า บางจากพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ แต่ต้องมีกฎหมาย และมาตรการต่างๆ ที่ชัดเจน สามารถตอบคำถามผู้มีส่วนได้เสีย และผู้ถือหุ้นได้อย่างชัดเจน....ซึ่งอีกแนวทางที่จะลดต้นทุนได้ คือ รัฐควรสนับสนุนการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถผลิตได้เองในประเทศ อีกทั้งราคาเพียง 25-26 บาทต่อลิตร เทียบกับเนื้อน้ำมันเบนซิน 34-35 บาทต่อลิตร โดยเฉพาะการส่งเสริมใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ด้วยการเพิ่มส่วนต่างราคากับแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 คาดว่าจะช่วยลดราคาน้ำมันลงได้ 80 สตางค์ ถึง 1 บาทต่อลิตร....!! น่าจะลองเอาไปคิดดูนะครับรัฐบาล...

nn 1 กรกฎาคมนี้...หมดเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซล 35 บาท/ลิตรแล้ว...และด้วยราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปยังทรงตัวถึง 160-170 เหรียญ/บาร์เรล....ราคาน้ำมันที่แท้จริงจะอยู่ 45 บาท/ลิตร...และหากว่ารัฐบาลช่วยออกครึ่งหนึ่ง...ผู้ใช้ก็ต้องควักจ่ายที่ 40 บาท/ลิตร...ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่ารัฐบาลจะปล่อยขึ้นรวดเดียวเลยหรือทยอยขึ้นครั้งละ 1 บาท/ลิตร...!! แต่ว่าก็ยังไม่จบแค่นี้...เพราะผู้เชี่ยวชาญในวงการน้ำมันบอกตรงกันว่าเราอาจจะได้เห็น...ราคาน้ำมันดีเซลวิ่งขึ้นไปแตะ 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล....หากว่า...สงคราม “ยูเครน-รัสเซีย ” ยังไม่จบในเร็ววันนี้...!! ขณะที่ ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เตรียมปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัม(กก.) ละ 1 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มขนาดถัง15 กก. จะปรับขึ้นอีก 15 บาท อยู่ที่ 393 บาท/ถัง 15 กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 378 บาท/ถัง 15 กก. ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยรัฐยังช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/ 3 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 2565...

nn !! ถ้าถามว่า...การที่รัฐบาลเข้ามาประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นนั้นถูกต้องไหม...แน่นอนว่าถ้าทำให้ช่วงที่เป็นวิกฤตระยะสั้นนั้นก็ถูกต้องแล้ว...แต่ในระยะยาวแล้วควรทำอย่างไร...ถ้าไม่โลกสวยก็ต้องบอกว่า...ราคาน้ำมันในไทยควรเป็นไปตามกลไกตลาดเสรี...การมีน้ำมันเพียงพอในราคาที่เหมาะสม ดีกว่าไม่มีน้ำมัน ไม่มีผู้ค้า....!! ผู้รู้ในวงการน้ำมัน...หลายรายก็ให้ความเห็นไว้น่าสนใจดังนี้....“รัฐบาลควรดำเนินการให้ถูกต้องกฎหมายที่ใช้อยู่และปล่อยไปตามระบบแข่งขันเสรี กลไกนี้จะทำให้ปรับสมดุลใหม่ได้เอง...การตั้งกองทุนน้ำมันฯ นั้น ก็เพื่อใช้อุดหนุนในช่วงวิกฤตชั่วคราวหากใช้ในช่วง 1-2 เดือนแรก รัฐบาลเอาเงินภาษีมาอุดหนุนราคา...และใช้กลไกลของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง...นั้นไม่ผิด....!! แต่จะอุ้มกันไปนานๆ ไม่ได้ เพราะการใช้น้ำมันของประชาชนจะไม่มีประสิทธิภาพที่สำคัญวงเงินที่นำมาใช้ตรึงราคาจะเพิ่มขึ้นมหาศาล และเมื่อกองทุนฯติดลบแล้ว ก็ไม่ควรอุดหนุนราคาอีกต่อไป...เพราะจะกลายเป็นว่าคนจน มาช่วยคนรวยและคนชั้นกลางและรัฐต้องไม่เอาหนี้สาธารณะของคนทั้งประเทศมาสนับสนุนคนใช้รถส่วนตัวซึ่งก็คือคนชั้นกลาง และคนรวย ได้ประโยชน์บนภาระหนี้สินของประเทศ และภาระของคนไม่มีรถหลายสิบล้านคนที่ยังต้องเดิน และใช้รถระบบสาธารณะ ซึ่งการที่ราคาน้ำมัน/ก๊าซหุงต้มที่ถูกเกินไป มีการบิดเบือนราคา จะมีการลักลอบส่งออก และทำให้ขาดดุลการค้า การชำระเงินมากขึ้น จะทำให้เกิดนิสัย ไม่ประหยัด ไม่หาวิธีอื่นๆ ในการดำรงชีวิต”...nn

กระบองเพชร