นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 12 ก.ค.2565 ได้เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการค้า ระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจปูซาน หรือ Busan Economic Promotion Agency (BEPA) สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายจิน ยาง-ฮยอน ประธาน BEPA เป็นผู้ลงนามฝ่ายสาธารณรัฐเกาหลี
สำหรับการทำ MOU ครั้งนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ตนมอบให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการสร้างความสัมพันธ์ขยายความร่วมมือทางการค้าไปยังประเทศต่างๆ ที่ลงลึกในระดับมณฑลหรือระดับเมืองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในโลก ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้ทำ MOU ในลักษณะนี้ หรือที่ตนเรียกว่าMini FTA กับมณฑลไห่หนาน ของจีน มณฑลกานซู่ของจีน เมืองโคฟุ ของญี่ปุ่น กับรัฐเตลังกานา ของอินเดีย และครั้งนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ที่กระทรวงพาณิชย์ไทยได้ลงนามทำ MOU กับ BEPA ของปูซาน
“เกาหลีใต้ถือเป็นพันธมิตรการค้าสำคัญของไทย เพราะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 10 ของโลก มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีปีที่แล้ว 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และถ้าลงลึกถึงการค้าระหว่างไทยกับปูซานมีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 2,330 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 75,000 ล้านบาท ที่สำคัญท่าเรือปูซาน เป็นท่าเรือที่รองรับการส่งออกสินค้าไทยไปยังเกาหลีมากที่สุดเป็นลำดับที่หนึ่ง การลงนามMOU ระหว่างกัน มั่นใจว่าจะมีความสำคัญทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับปูซานและประเทศเกาหลี”นายจุรินทร์กล่าว
นายมูน ซึง ฮย็อน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2022 จะครบรอบ 64 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เกาหลี อีกทั้งยังเป็นปีที่ครบรอบ 10 ปี ของการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ และเชื่อว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ จะเป็นบันใดอีกขั้นหนึ่งในการยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้สูงขึ้น และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เพิ่มมากขึ้นได้อีกในอนาคต ทั้งนี้ ปูซานเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของเกาหลี เป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์
รายงานข่าวจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่า นายจุรินทร์ได้ มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ดำเนินนโยบายการค้าระหว่างประเทศเชิงรุก โดยเร่งรัดการเจรจาทุกระดับเพื่อขยายการค้าของไทยไปยังตลาดโลกในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรทั้งเมืองหลักและเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยตั้งเป้าว่าภายหลังการลงนามในครั้งนี้ มูลค่าการส่งออกจากไทยไปยังเกาหลีจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี (2565-2567) พร้อมทั้งได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ ของไทย ที่มีจุดเด่นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ และวัฒนธรรมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี