กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้าโครงการ“สมาร์ทโชห่วย พลัส” โดยการจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 25 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาโชห่วยไทยให้เป็นสมาร์ทโชห่วย โดยเตรียมลุยเพิ่มความรู้ พร้อมช่วยปรับภาพลักษณ์ให้แก่ร้านค้า ดันการนำเทคโนโลยีมาใช้ และมีช่องทางออนไลน์บริการลูกค้า ทั้งนี้ตั้งเป้าปี 2565 อบรม 3,000 ราย สร้างสมาร์ทโชห่วย 300 ราย และ ปี 2566 อบรม 3,000 ราย สร้างสมาร์ทโชห่วย 400 ราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนดำเนิน “โครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส” ว่า ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีกไทยทุกขนาด พร้อมเร่งพัฒนาร้านโชห่วยให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย”
ทั้งนี้ ล่าสุดกรมฯได้ร่วมมือกับ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และภาคเอกชน 5 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย 2.ผู้ให้บริการเทคโนโลยี ระบบ POS แพลตฟอร์ม 3.ผู้ให้บริการเสริม 4.สถาบันการเงิน และ 5.เครือข่ายธุรกิจ Moc Biz Club รวมกว่า 25 หน่วยงาน เพื่อรวมพลังกันส่งเสริมผู้ประกอบการโชห่วยไทยให้แข่งขันได้ โดยร่วมกันวางกรอบการพัฒนาโชห่วยไทยทั้งระบบ ซึ่งเป้าหมายแรก คือ การผลักดันร้านค้าส่ง-ค้าปลีก ให้เป็นสมาร์ทโชห่วย ผ่านโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” เพื่อผลักดันโชห่วยไทยยืนหนึ่งบนเวทีค้าส่ง-ปลีกเคียงข้างผู้บริโภคได้ต่อไป
สำหรับโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส นั้น เป็นโครงการระยะยาว มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (2565-2569) ครอบคลุมการดำเนินกิจกรรมหลัก 2 ส่วน คือ 1.การเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่
ผู้ประกอบการ และ 2.การนำองค์ความรู้มาพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างสมาร์ทโชห่วย และจะมีกิจกรรมการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการโชห่วยที่ครอบคลุมหลายมิติ เพื่อผลักดันให้เป็นสมาร์ทโชห่วย ซึ่งจะมีการปรับรูปแบบร้านค้าใน 3 ประการ คือ 1.การมีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดี 2.มีการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้านค้า และ 3.มีช่องทางออนไลน์สำหรับให้บริการลูกค้า
“โครงการดังกล่าวนี้ หน่วยงานพันธมิตรจะร่วมมือกันดำเนินการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยอาศัยกลไกการทำงานร่วมกันทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ซึ่งจะมีร้านค้าส่งท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนา
จากกรมฯ ภายใต้การดูแลของสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงโชห่วย คอยให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยพัฒนาร้านค้าโชห่วยเครือข่ายให้เติบโตไปด้วยกัน รวมทั้งมีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ช่วยติดตามการดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ และร้านค้าสมาร์ทโชห่วยนี้จะเป็นแหล่งรับซื้อสินค้าของคนในชุมชน อันจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศต่อไป”นายทศพล กล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กรมฯได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)ขับเคลื่อนโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส ระหว่างกรมฯ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และหน่วยงานต่างๆ เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อเริ่มต้นโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัสอีกทั้งเป็นการส่งสัญญาณว่ากรมฯพร้อมที่จะขยายเครือข่ายพันธมิตรที่มีศักยภาพ และพร้อมสนับสนุนโชห่วยในอนาคต
โดยในปี 2565 กรมฯได้กำหนดให้มีการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการโชห่วยทั่วประเทศ จำนวน 3,000 ราย และสร้างสมาร์ทโชห่วย จำนวน 300 ราย และในปี 2566 กำหนดแผนพัฒนาโชห่วยไทย โดยมีเป้าหมายเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการโชห่วยทั่วประเทศ จำนวน 3,000 ราย และสร้างสมาร์ทโชห่วย จำนวน 400 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี