นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) (RT) ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ว่า บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากปัจจัยที่เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่มีผลต่อการดำเนินงานนั้น เริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายแล้ว อาทิ ราคาวัสดุก่อสร้างและน้ำมันปรับตัวลดลง แรงงานก่อสร้างเริ่มกลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้โครงการก่อสร้างเริ่มกลับมาดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ และทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมุ่งเน้นการบริหารจัดการแรงงานก่อสร้างทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งในด้านขั้นตอนการดำเนินงานในไซต์ก่อสร้าง ด้านปริมาณและการขนย้ายแรงงาน เพื่อรองรับงานโครงการก่อสร้างใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนการเข้าประมูลงานทั้งงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่กำลังจะเปิดการประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 นี้ และงานก่อสร้างที่ต่อยอดจากการเป็นผู้รับเหมาช่วง(Subcontract) อาทิ งานประเภทอุโมงค์, งานประเภทเขื่อนและระบบชลประทาน, งานท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน,งานก่อสร้าง Slope Protection รวมถึงโครงการก่อสร้างภาคเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นงานที่มี มาร์จิ้นสูงเนื่องจากเป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถจากบริษัทที่มีประสบการณ์และความชำนาญพิเศษ

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้ารับงานประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566

โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 7,254.33 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้แบ่งตามประเภทงาน ประกอบด้วย งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 42.73%, งานก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 32.52%, งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินวิธีดันท่อและวิธีเจาะและดึงท่อ 14.92% และ งานอื่นๆ 9.83% อาทิ งานก่อสร้างถนน, งานเจาะสำรวจธรณีวิทยา และงาน Slope Protection เป็นต้น อย่างไรก็ตามในปี 2565 นี้บริษัทคาดว่าจะมี Backlog ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2567

นายชวลิต กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ไม่มีประกัน ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน(หุ้นกู้ชุดที่ 1) มีอายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ และหุ้นกู้ไม่มีประกัน ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน(หุ้นกู้ชุดที่ 2) มีอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด เสนอขายรวมกันเป็นมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อเป็นเงินลงทุนในโครงการก่อสร้างใหม่ที่บริษัทมีการเข้าประมูลและรับงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการและโครงการก่อสร้าง และการชำระเงินกู้กับสถาบันทางการเงิน โดยกำหนดวันจองซื้อในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2565 และเสนอขายหุ้นกู้ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565