นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป“มาม่า” 1 บาท/ซอง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ซองละ 7 บาท ที่เครือสหพัฒน์ได้ยื่นขอปรับขึ้นราคาไปยังกระทรวงพาณิชย์ ว่า ปัจจุบัน เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างรอคำตอบจากกระทรวงพาณิชย์ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหนังสือแจ้งให้บริษัทไปชี้แจงต้นทุนราคาวัตถุดิบเพิ่มเติม จากที่ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ ตอนนี้จึงทำได้เพียงการปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจและต้นทุน แต่ยังต้องรักษามาตรฐานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงเดิม
โดยส่งผลให้หลังจากนี้มาม่าจะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ และรสชาติใหม่ๆ มากขึ้น ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ โดยเฉพาะ “มาม่า OK” ซึ่งถือเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่ในตลาดพรีเมียมที่มีสัดส่วนประมาณ 20% ของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยรวมที่มีมูลค่า 18,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยรวมเติบโต 4-5%ขณะนี้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับพรีเมียมเติบโตถึง 30% ซึ่งมาม่า OK มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30%
โดยมาม่าจะใช้โอกาสในความร่วมมือกับพันธมิตรขยายฐานการบริโภคบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้มีฐานตลาดที่กว้างมากขึ้น ล่าสุดมาม่า OK ได้จับมือกับมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ “เลย์” คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ร่วมกันจนได้มาเป็นมาม่า OK แบบแห้ง 2 รสชาติใหม่ คือ รสชิลลี่แครบ และรสมิโซะบัตเตอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรสชาติใหม่ที่หลากหลาย และเป็นการสร้างความแตกต่างและสีสันให้กับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและตลาดขนมขบเคี้ยว โดยวางงบทำการตลาดไว้ที่ 30-40
ล้านบาท เน้นไปที่ช่องทางออนไลน์