วันพุธ ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
บางจากฟันรายได้เพิ่ม80%  ครึ่งปีแรกทำเงินกว่า1.52แสนล้าน

บางจากฟันรายได้เพิ่ม80% ครึ่งปีแรกทำเงินกว่า1.52แสนล้าน

วันศุกร์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.37 น.
Tag : บางจาก
  •  

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทบางจาก เปิดเผยผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรก 2565 ของกลุ่มบางจากฯ ว่าบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 152,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย( EBITDA) 26,286 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 192% ผลงานที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน OKEA เป็นบริษัทย่อยตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 ส่วนที่เหลือปรับเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางฟื้นตัวขึ้น

ขณะที่อุปทานน้ำมันยังตึงตัวจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และกลุ่มโอเปกพลัสไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 102.17 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 38.55 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล หรือ 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯมี Inventory Gain 8,451 ล้านบาท


ผลการดำเนินงานที่ปรับเพิ่มขึ้นที่ได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางกลับคืนมา ขณะที่อุปทานน้ำมันยังตึงตัวจากสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ และกลุ่มโอเปกพลัสไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

จากการที่ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบอ้างอิงที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากตามกลไกราคาตลาดซึ่งเพิ่มขึ้นลดลงตามอุปสงค์และอุปทาน ส่งผลให้ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA รวม 11,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีค่าการกลั่นพื้นฐาน (Operating GRM) ปรับเพิ่มขึ้น และ
โรงกลั่นบางจากฯ ยังคงอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่สูงในระดับ 122.3 พันบาร์เรลต่อวัน หรือ คิดเป็น 102 %ของกำลังการผลิตรวมของโรงกลั่น

ธุรกิจการค้าน้ำมันโดย BCPT ปรับตัวดีขึ้นจากกำไรต่อหน่วยของการซื้อขายผลิตภัณฑ์กลุ่มแก๊สโซลีน/แนฟทาปรับสูงขึ้น พร้อมรับรู้กำไรจากการเข้าทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้า กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA รวม 2,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 % ได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณการจำหน่ายที่ปรับเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลาย

กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า มี EBITDA รวม 4,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 3 โครงการ

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA รวม 437 ล้านบาท ลดลง 39% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของ
ปีก่อน สาเหตุหลักมาจากราคาขายไบโอดีเซล (B100) ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ

ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง BBGI ได้เข้าลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ไบโอม(“ไบโอม”) ซึ่งเป็นบริษัท Spin Off แห่งแรกของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อต่อยอดมูลค่างานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ นอกจากนี้บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด (BBGI ถือหุ้น 51%) จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ บริษัทวิน อินกรีเดียนส์ สิงคโปร์ ไพรเวท ลิมิเต็ด วัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพและให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและการค้า

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ มี EBITDA รวม 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,000% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับปัจจัยบวกจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้น 192%

ทั้งนี้ เฉพาะไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและให้บริการ 83,796ล้านบาท EBITDA 12,572 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 5,276 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.79 บาทโดยหลักมาจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน

สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับแผนธุรกิจให้เหมาะสม บริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอกับการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุน โดยมีแผนที่จะออกและเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและราคาน้ำมันที่ผันผวน พร้อมทั้งเร่งการลงทุนเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมการค้าภายในผนึกกำลังปั๊ม พีที โออาร์-บางจาก เร่งกระจายลำไยแปรรูป กรมการค้าภายในผนึกกำลังปั๊ม พีที โออาร์-บางจาก เร่งกระจายลำไยแปรรูป
  • กรมการค้าภายใน ผนึกกำลัง2ปั๊มน้ำมัน เร่งกระจายมังคุด-สับปะรดช่วยเหลือเกษตรกร กรมการค้าภายใน ผนึกกำลัง2ปั๊มน้ำมัน เร่งกระจายมังคุด-สับปะรดช่วยเหลือเกษตรกร
  • ‘บางจาก’ขยายธุรกิจใหม่  สู่ระบบท่อขนส่งน้ำมัน-โลจิสติกส์ ‘บางจาก’ขยายธุรกิจใหม่ สู่ระบบท่อขนส่งน้ำมัน-โลจิสติกส์
  •  

Breaking News

ด่วนที่สุด!!! 'เศรษฐา'เซ็นตั้งอีก 4 ที่ปรึกษานายกฯ

เหตุระเบิด'ปลัด-อส.' อ.ปะนาเระ เจ็บ 13 ราย จนท.ยันเป็นระเบิดแบบเก่า ที่พัฒนาใหม่

แซ่บสะดุดตา! 'ไอซ์ อภิษฎา'สวมชุดแหวกอกร่วมชมแฟชั่นที่ปารีส

กรมคุ้มครองสิทธิฯ เตรียมเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง รายละ 2 แสนบาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved