‘สมศักดิ์’ เสนอ ครม.แก้กฎหมายลดภาษียาสูบ พร้อมคืนโควตาให้เกษตรกร 20 จังหวัด ‘คลัง’ ขานรับดำเนินการด่วน ด้าน ครม.ไฟเขียวให้การยาสูบฯจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,500 ล้านบาท หลังกระทบหนักจากสภาพเศรษฐกิจถดถอย
16 สิงหาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพัฒนายาสูบในประเทศไทย ว่า เรื่องยาสูบเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนที่ปลูกยาสูบในหลายจังหวัด ในจังหวัดที่ตนอยู่ จ.สุโขทัย ก็มีปลูก ปัญหามีมานาน โดยเฉพาะเรื่องที่ชาวบ้านถูกลดโควตาโรงงานยาสูบได้ออกกฎหมายขึ้นภาษียาสูบ ที่ผ่านมาในอดีตย้อนหลังไป 2-3 ปี มีกฎหมายเพิ่มภาษียาสูบ ทำให้ยาสูบขายไม่ค่อยได้ โดยปัจจุบันเมื่อขายไม่ค่อยได้ มีปัญหาเรื่องการเงินและสภาพคล่องของการยาสูบแห่งประเทศไทย ครม.จึงพิจารณาเสนอเงินกู้ให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กู้เงินเสริมสภาพคล่อง ประมาณ 1,500 ล้าน
ทั้งนี้ ตนได้กล่าวเสริมในที่ประชุม ครม.ปัญหาที่ออกกฎหมายในอดีตเกิดความพลาดพลั้งในการขึ้นภาษียาสูบ คิดว่าจะได้เงินเข้าการยาสูบแห่งประเทศไทยมาก แต่ปรากฏว่าทุกคนหันไปสูบบุหรี่ต่างประเทศ ที่มีความรู้สึกว่าคุณภาพดีกว่า เมื่อยาสูบขายได้น้อย เกษตรกรที่ปลูกอยู่ถูกลดโควตา เดือดร้อนไปหลายจังหวัดจึงขอโอกาสให้กระทรวงการคลังไปปรับกฎหมายใหม่โดยเร็ว ให้เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมจะได้คืนโควตาเกษตรกร 20 จังหวัด เพื่อที่จะแก้ปัญหา เพื่ออนาคตจะได้ไม่ต้องเสริมสภาพคล่องอีกต่อไปอีกในวันข้างหน้า ซึ่งทุกคนก็เห็นชอบ เพราะเกรงว่าองค์กรของรัฐจะเสียหาย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ให้ปรับกฎหมายนั้น เพราะกฎหมายใหม่ที่ใช้มาประมาณ 1 ปีกว่า เรื่องการปรับโควตาภาษีมีปัญหา จากเดิมที่การยาสูบแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี แต่ที่ผ่านมามีการแก้กฎหมายใหม่ ทำให้มีสภาพที่ไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงต้องแก้ไขกฎหมายอีกครั้งโดยเร็ว โดยขอรัฐมนตรีว่าการกระควงการคลัง เร่งตั้งคณะกรรมาการดำเนินการโดยด่วน เพื่อคืนโควตาให้เกษตรกร เพราะว่ากำไรไม่เกินมวนละ 5 สตางค์ ไม่คุ้ม และตนคิดว่าเรื่องนี้สามารถแก้กฎหมายได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าสภา
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) จัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นโดยวิธีกู้เบิกเกินบัญชี วงเงิน 1,500 ล้านบาท อายุเงินกู้ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565-16 มีนาคม 2566 เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไปของ ยสท. ซึ่งวงเงินกู้ดังกล่าวอยู่ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 แล้ว โดยผลประกอบการล่าสุดในรอบ 6 เดือน ปี 2565 ของ ยสท. มีรายได้รวม 17,748 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 17,783 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 35 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยสท. ยังได้จัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ประจำปีงบประมาณ 2565-2566 กรณีที่ประมาณการยอดจำหน่ายบุหรี่ในประเทศต่ำที่สุด (Worst Case) โดยในปีงบประมาณ 2565 คาดการณ์ว่าจะจำหน่ายบุหรี่ในประเทศได้จำนวน 12,050 ล้านมวน และผลกระทบจากโควิด 19 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจถดถอยและผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ประกอบกับปัญหาจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าสาธารณูปโภค และอื่นๆที่ ยสท.ต้องนำมาใช้ในการผลิตยาสูบและดำเนินกิจกรรมในองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงปัญหาการแพร่กระจายของบุหรี่ผิดกฎหมาย จะส่งผลให้ยสท.มีรายรับรวม 38,338 ล้านบาท รายจ่ายรวม 44,571 ล้านบาท ขาดทุนรวม 6,233 ล้านบาท และเงินสดปลายงวดคงเหลือจำนวน 2,684 ล้านบาท
สำหรับปีงบประมาณ 2566 ยสท. คาดการณ์ว่าจะจำหน่ายบุหรี่ในประเทศได้จำนวน 11,552 ล้านมวน มีรายรับรวม 36,711 ล้านบาท รายจ่ายรวม 40,323 ล้านบาท ขาดทุน 3,612 ล้านบาท และเงินสดปลายงวดติดลบจำนวน 928 ล้านบาท ดังนั้น ยสท.จึงมีความต้องการจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นโดยวิธีกู้เบิกเกินบัญชี วงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องและใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี