ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่าสำนักวิจัยฯปรับการคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565เป็น 3.2% จาก 3.1% โดยคาดว่าไตรมาส 3และ 4 จะฟื้นตัวต่อเนื่องที่ราว 4% จากปีก่อนและมองการเติบโตปี 2566 ที่ 3.4% ซึ่งเป็นระดับที่เหนือค่าเฉลี่ยในอดีต ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรงตามปัญหาเงินเฟ้อสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางสำคัญ แม้เศรษฐกิจไทยมีทิศทางฟื้นตัวสดใสขึ้น แต่ไตรมาส 4 มี6 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจฉุดให้การเติบโตต่ำกว่าคาดประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจไทยฟื้นไม่ทั่วถึง2.เงินเฟ้อไทยลดลงช้า 3.เสียโอกาสการลงทุน 4.วิกฤตพลังงานในยุโรป 5.สหรัฐเร่งขึ้นดอกเบี้ย และ 6.เงินหยวนอ่อนค่า
ทั้งนี้ ดร.อมรเทพ ได้ขยายความถึง6 ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นไม่ทั่วถึงเพราะการฟื้นตัว จำกัดอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งและได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งออกอาหาร ท่องเที่ยว (กลุ่มเมืองหลัก) โรงแรม ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์บางกลุ่ม ส่วนกลุ่มที่ยังอ่อนแอ ได้แก่ ภาคเกษตร เพราะต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีขยับขึ้น อีกทั้งกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ทำให้ภาคการผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศเติบโตช้า สุดท้ายแล้วเพราะภาคส่วนที่อ่อนแอจะดึงให้ภาคส่วนที่แข็งแรงทรุดลงได้
นอกจากนี้ เงินเฟ้อไทยลดลงช้า แม้เงินเฟ้อของไทยน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปได้แต่จะเริ่มเห็นการส่งผ่านของราคาสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคมากขึ้นในไตรมาส 4 และหากเงินเฟ้อยังสูง ประกอบกับความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน กนง. อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแรงกว่าคาด ทำให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ไทยอาจเสียโอกาสการลงทุนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง การเปลี่ยนรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปน่าจะมีขึ้นภายใน 9 เดือนนี้ แม้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยแต่นักลงทุนต่างชาติจะรอความชัดเจนในนโยบายของรัฐบาลใหม่ก่อนเข้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่และอาจเสียโอกาสบรรลุข้อตกลงการเจรจาการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญ
ดร.อมรเทพ กล่าวอีกว่าวิกฤตพลังงานในยุโรปสืบเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยุโรปที่ทำให้เกิดการขาดแคลนพลังงานซึ่งหากปัญหานี้ลากยาว เศรษฐกิจยุโรปถดถอยจะกระทบเศรษฐกิจไทยผ่านการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน สหรัฐเร่งขึ้นดอกเบี้ย จะกดดันเศรษฐกิจโลกให้เติบโตช้าลงกระทบการส่งออกของไทย โดยเฉพาะในปีหน้าโดยคาดว่าการส่งออกสินค้าสกุลดอลลาร์สหรัฐในปีหน้าจะหดตัว 0.6% ส่วนกรณีเงินหยวนอ่อนค่า เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน มีผลกดดันเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนเป็นพิเศษรวมทั้งไทยด้วย อีกทั้งเงินหยวนอาจอ่อนค่าขึ้นอีกส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาค โดยเฉพาะเงินบาทที่มีความเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับเงินหยวนอย่างใกล้ชิดอ่อนค่าตามได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี