นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ ได้วางงบลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รับสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยการลงทุนครอบคลุมทั้งหมวดสุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหาร พร้อมมีการปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารงาน ด้วยการวาง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ให้เป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันการเติบโตในตลาดอาเซียน
ในขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจยังแข็งแกร่ง แม้เผชิญกับความท้าทายจากโควิด-19 แต่สถานการณ์ล่าสุดคลี่คลายแล้ว มาตรการรัฐก็ผ่อนคลาย มีการเปิดประเทศ ทำให้เอื้อการเดินทางท่องเที่ยว การบริโภคก็กลับมาฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อตลาดยุทธศาสตร์ประเทศไทยและเวียดนาม และกลายเป็นปัจจัยหนุนรายได้และกำไรของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจเติบโตขึ้น
ทั้งนี้รายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรกปี 2565 ของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ มีมูลค่า 207,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความต้องการของการบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันกลุ่มไทยเบฟเวอเรจยังบริหารแบรนด์สินค้าให้ประสบความสำเร็จ ทำให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดบัญชี หรือ EBITDA อยู่ที่ 39,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% ด้านสถานะการเงินของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจยังแข็งแกร่ง โดยมีเสถียรภาพของกระแสเงินสดที่ดี และมีความพยายามลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่อง
“ภาพรวมการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเป็นเรื่องดี แต่ธุรกิจยังต้องเผชิญความท้าทายใหม่ๆ จากภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคในครัวเรือน แต่กลุ่มไทยเบฟเวอเรจจะยังคงดำเนินมาตรการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป เพื่อให้มีความพร้อมรับมือกับแรงกดดันเหล่านี้ รากฐานของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจที่แกร่ง จึงเชื่อมั่นว่าจะรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมั่นคงและหนักแน่น แม้ช่วงเวลาอันเลวร้ายที่สุดของการระบาดของโควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่จะไม่นิ่งนอนใจ จะมุ่งมั่นเสริมสร้างธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมทั้งดูแลและปกป้องบุคลากรทั้งในด้านสุขภาพและความปลอดภัย”นายฐาปน กล่าว
อย่างไรก็ตามล่าสุดกลุ่มไทยเบฟเวอเรจได้มีการจัดงาน Sustainability Expo 2022 (SX2022) เป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เน้นการจัดงานเป็นระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน-2 ตุลาคม 2565 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่จัดแสดง 40,000 ตารางเมตร เนื่องจากในอดีตหากจะพูดในเรื่องของความยั่งยืน คนเราจะมองและเน้นในมุมปัจเจกบุคคลเป็นหลัก แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มมีแนวคิดที่มองต่าง โดยหันมามองและให้ความสำคัญเรื่องส่วนรวมมากขึ้น จึงต้องคิดหาวิธีรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพื่อได้สิ่งแวดล้อมที่ดี โลกที่น่าอยู่ ส่งต่อไปสู่คนรุ่นต่อๆไป แนวทางสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน (Enabling Sustainable Growth) กลุ่มไทยเบฟเวอเรจยังมีเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2568 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศไว้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี