บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 28 กันยายนนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% จาก 0.75% มาอยู่ที่ 1.00% ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ37.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี
กนง.คงจะยังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และยังคงเปราะบางจากหนี้ในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง โดย กนง.คงหลีกเลี่ยงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแรง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หากกนง.มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ตามคาด คงมีแรงกดดันให้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และค่าเงินดอลลาร์รวมถึงดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่จะส่งผลต่อแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตามหากทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐยังคงไม่ลดลงชัดเจน และเฟดยังคงต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องไปในการประชุมไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ค่าเงินบาทคงเผชิญแรงกดดันให้อ่อนค่าต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ และการกลับมาแข็งค่าของค่าเงินบาทคงล่าช้าออกไปกว่าเดิม
“เงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องกับค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ปัจจัยกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่านั้นมาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่างจากช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจภายใน และเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยในปัจจุบันยังค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 2.38 แสนล้านดอลลาร์ (ณ วันที่ 16 กันยายน 2565) คิดเป็นประมาณ 3.2 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ( ณ ไตรมาส 1/65) สถานการณ์ปัจจุบันไทยยังคงห่างไกลจากการเกิดวิกฤตดังเช่นวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540” รายงานระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี