8 ปีรัฐดึงเงินลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ “ดีอีเอส” เร่งพัฒนา “สมาร์ทซิตี้” ทั่วไทย พร้อมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล รองรับการทำธุรกิจออนไลน์มูลค่า 5.6 แสนล้านบาท
30 ตุลาคม 2565 น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่มีประเด็นข่าวปลอมจากสังคมออนไลน์ แจ้งว่าในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีการลงทุนใหม่ในประเทศ นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น ทางรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอยืนยันว่าในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี
ทั้งนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่ารัฐบาลได้มีการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ได้มีการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 26 โครงการ จาก 17 บริษัท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน รวม 80,208 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน จำนวนยานยนต์ที่ได้รับอนุมัติ 838,775 คัน และบีโอไอได้ออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้วจำนวน 16 โครงการ อาทิ โครงการผลิตรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน จำนวน 6 ราย, รถยนต์กระบะ จำนวน 2 ราย และรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 ราย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้อนุมัติโครงการพัฒนา Data Center จำนวน 3 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ของบริษัท อะเมซอน ดาต้า เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าเงินลงทุนรวม 24,810 ล้านบาท มูลค่าเงินลงทุนไม่รวมที่ดินและทุนหมุนเวียน 23,658 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินงานของสำนักงานและหน่วยงานภายใต้ดีอีเอสนั้น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City แล้ว 30 พื้นที่ใน 23 จังหวัด อีกทั้งได้รับความเห็นชอบแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพิ่มเติมจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ที่มี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาอีก 15 พื้นที่ใน 14 จังหวัด
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะผลักดันประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างสมบูรณ์ ผ่านการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มุ่งเน้นให้คนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้เกิดแผนการพัฒนาเมือง รวมถึงโครงการที่ตอบสนองบริบทของพื้นที่ และความต้องการของประชาชนให้กับผู้บริหารเมือง ทั้งระดับประเทศ จังหวัด และชุมชน อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ยกระดับสังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ
น.ส.นพวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ซึ่งเป็นสำนักงานงานภายใต้ดีอีเอส ยังมีการจัดทำนโยบายแนวทางในการขับเคลื่อนงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศและในมิติการดำเนินงานที่ ETDA จะต้องขับเคลื่อนในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมถึงความร่วมมือกับทุกภาคส่วน มุ่งสู่การยกระดับชีวิตคนไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้ 4 โครงการสำคัญ ประกอบด้วย การกำกับดูแล Digital Service, ร่วมผลักดัน Digital ID, ส่งเสริมและร่วมพัฒนานวัตกรรมที่น่าเชื่อถือผ่าน ETDA Sandbox และขยายความร่วมมือสร้างโอกาส ก้าวสู่โลกออนไลน์ที่ทุกคนมั่นใจ เพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ซึ่งได้เดินหน้าขับเคลื่อนงานสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้คนไทยทำธุรกรรมทางออนไลน์อย่างเชื่อมั่น เพราะธุรกรรมทางออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
จากการสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าตลาดอีคอมเมิร์สของไทย ในปี 2565 มีมูลค่าราว 5.6 แสนล้านบาท ทั้งนี้การทำธุรกรรมผ่านออนไลน์คาดว่าจะมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคก็มีความสะดวกและคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น
“ขอให้ประชาชนตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายอยู่บนโซเชียล/ออนไลน์ โดยสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87” น.ส.นพวรรณ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี