นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 21 ระดับรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อสรุปผลการดำเนินงานก่อนเสนอที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และครั้งที่ 41 รวมทั้งจะประชุมร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา ได้แก่ ด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง ด้านเกษตรและป่าไม้
สำหรับไฮไลท์ของการประชุมจะมี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิจารณาจัดทำองค์ประกอบหลักของร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ภายหลังปี 2568 (Post-2025 Vision) ในส่วนของเสาเศรษฐกิจ เพื่อรวมเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ฉบับใหม่ ซึ่งจะเสนอให้ผู้นำอาเซียนรับรองในปี 2568 และ 2.เตรียมการเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนของอาเซียน โดยจะมีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีอาเซียน 3 สาขา ได้แก่ ด้านพลังงาน ด้านการขนส่ง ด้านเกษตรและป่าไม้ เพื่อหาแนวทางผลักดันอาเซียนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมจะมีการติดตามความสำเร็จของประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ (Priority Economic Deliverables: PEDs) ที่กัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้สำเร็จในปี 2565 โดยเฉพาะประเด็นการเริ่มเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) พร้อมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยจะให้ความเห็นชอบปฏิญญาพนมเปญว่าด้วยการพลิกโฉมการท่องเที่ยวอาเซียน ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิกต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 รวมทั้งรับทราบผลการประเมินเชิงลึกถึงความพร้อมของติมอร์เลสเต ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอาเซียน เพื่อสรุปผลการดำเนินงานเสนอต่อผู้นำอาเซียนต่อไป
นอกจากนี้จะมีการรับรองเอกสารสำคัญ อาทิ แผนดำเนินงานตามกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ปี ค.ศ. 2023-2030 ซึ่งเป็นแนวทางที่อาเซียนสามารถนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเอกสารแนวคิดเรื่องยุทธศาสตร์อาเซียน เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ เช่น อาเซียนจะเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนด้านการปล่อยคาร์บอนต่ำ และช่วยส่งเสริมนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่มูลค่า เป็นต้น
ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนของปี 2565 (มกราคม-กันยายน 2565) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 96,850.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่า 55,997.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียนมูลค่า 40,853.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี