นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ ธนาคารยังคงมุ่งมั่นให้ประชาชนมีการออมในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการออม ทั้งนี้มองว่าทุกหน่วยงานต้องเร่งให้เกิดการออม อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาจำนวนการออมของประชาชนมีจำนวนลดลง แต่ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19คลี่คลาย เชื่อมั่นว่าจำนวนการออมจะมีเพิ่มมากขึ้น สำหรับเป้าหมายหลักในสนับสนุนให้เกิดการออมนั้น เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในวัยเกษียณ

“ภารกิจหลักของธนาคารคือการส่งเสริมการออมของประชาชนซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งธนาคาร โดยดำเนินการผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝากและสลากออมสิน ที่จูงใจลูกค้าให้ออมโดยดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษีและมีความมั่นคงด้วยมีรัฐบาลประกันเต็มวงเงินฝาก แต่ด้วยปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สภาพสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ ธนาคารจึงได้ขยายบทบาทการส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมเพื่อเป้าหมายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการวางแผนเพื่อรองรับวัยเกษียณด้วย”นายวิทัย กล่าว

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการส่งเสริมการออมให้กับประชาชน โดยธนาคารได้เปิดตัวเงินฝากส่งเสริมการออม ดอกเบี้ยไม่เสียภาษี รัฐบาลเป็นประกัน ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ เพื่อการเกษียณ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบ Step Up สูงสุด 10% ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.21% ต่อปี เทียบเท่าเงินฝากประจำที่ 3.77% ต่อปี เปิดจองลงทะเบียนจองสิทธิ์รับฝากผ่าน www.gsb.or.th ตั้งแต่ 31 ต.ค. เป็นต้นไป และ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 13 เดือน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step Up สูงสุด 4.5% ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.15% ต่อปี เทียบเท่าเงินประจำ 1.35% ต่อปี เปิดรับฝากตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ธนาคารยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น CoachAom (โค้ชออม) “ให้การออมอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่เรื่องยาก” โดยจะเป็นตัวช่วยวางแผนการออมให้กับผู้ใช้แอปพลิเคชั่นสามารถทดลองคำนวณปริมาณเงินออมตามเป้าหมายต่างๆ ได้ด้วยตนเองและยังสามารถปรับแผนการออมเมื่อผลลัพธ์การคำนวณพบว่าปริมาณเงินออมยังไม่เพียงพอ ซึ่งในเบื้องต้นจะให้บริการผ่านระบบปฏิบัติการAndroid และจะเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านระบบ IOS ในเดือน ธันวาคม นี้