นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “อมาโด้” (amado) เปิดเผยว่า ในปี 2566อมาโด้ได้ตั้งเป้าหมายของรายได้ไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยยึดหลักสถิติความเป็นไปได้ของสภาวะเศรษฐกิจ การเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงโครงสร้างภายในขององค์กร พร้อมปรับแผนนโยบายองค์กรมุ่งเน้นการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ เสริมทัพด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพใหม่ๆที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค

ทั้งนี้ ได้วางงบการตลาดด้านทีวีช้อปปิ้งในปี 2566 ในเบื้องต้นไว้ที่ 400 ล้านบาท ขณะนี้ได้ปิดดีลซื้อแอร์ไทม์ที่มีประสิทธิภาพกับช่องทีวีหลักไว้ ได้แก่ อมรินทร์ทีวี, สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และช่อง MONO29, Workpoint TV, PPTV HD36 ส่วนช่องอื่นๆจะต้องมีการประเมินความคุ้มค่าและปรับแผนระหว่างปี 2566 อีกครั้ง

สำหรับในปี 2565 นี้ อมาโด้ ยังใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดในการสร้างการตอกย้ำในแบรนด์ โดยต่อสัญญา “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมเปิดตัวคอลลาเจนสูตรใหม่ “อมาโด้ โกลด์ คอลลาเจน พลัสเซราไมด์” และยังคงแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆโดยเฉพาะด้านความงาม และด้านสกินแคร์อีกทั้ง อมาโด้ ยังมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จัดสินค้าโปรโมชั่นพิเศษมาจัดจำหน่ายผ่าน “อมาโด้ ช้อปปิ้ง” อีกด้วย

“ตลอดกว่า 8 ปี ที่ อมาโด้ ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีจุดยืนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่ผู้บริโภครับได้ ซึ่งปี 2565 นี้ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆหลายชนิด อีกทั้งยังขยายธุรกิจมาลุยตลาดทีวีช้อปปิ้ง จากที่ผ่านมามีจุดแข็งในการคัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของช่องทีวีชั้นนำ มาผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตรงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึง 2 เท่า” นายธนาตรัยฉัตร กล่าว