นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนพฤศจิกายน และ 11 เดือนของปี 2565 โดยภาพรวมการค้า การส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีมูลค่า 22,308.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (846,191 ล้านบาท) หดตัว 6.0% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัว 2.0% โดยการส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว ผลของอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ในตลาดจีน กระทบต่อภาคการผลิตโดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโลก (PMI) ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่อง 3 เดือน เช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเชียที่อัตราการส่งออกชะลอลง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยหนุนจากค่าระวางเรือ ที่ปรับลดลงต่อเนื่องในเส้นทางสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งช่วยลดต้นทุนของผู้ส่งออก รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทั้งนี้ การส่งออกไทย 11 เดือนแรก ยังขยายตัวได้ที่ 7.6% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 6.5% มูลค่าการค้ารวม มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2565 การส่งออก มีมูลค่า 22,308.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 6.0% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤศจิกายน 2565 การส่งออก มีมูลค่า 846,191 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 7.7
เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 907,143 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 20.6 ดุลการค้า ขาดดุล 60,952 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม -พฤศจิกายน) การส่งออก มีมูลค่า 265,349.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.6% การนำเข้า มีมูลค่า 280,438.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 16.3% ดุลการค้า ขาดดุล 15,088.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าการค้าในรูปเงินบาท การส่งออก มีมูลค่า 9,167,993 ล้านบาท ขยายตัว 18.4% การนำเข้ามีมูลค่า 9,823,872 ล้านบาท ขยายตัว 28.0% ดุลการค้า ขาดดุล 655,879 ล้านบาท
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 2.0% (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และไก่แปรรูป ขยายตัว
20.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน โดยขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน เนเธอร์แลนด์ และมาเลเซีย ผลไม้สด
แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัว 7.5% เป็นการกลับมาขยายตัวในรอบ 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆขยายตัว 13.0% ฯลฯ ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ข้าว หดตัว 4.7% ยางพารา หดตัว 34.2% หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน อาหารสัตว์เลี้ยง หดตัว 5.8% ผลไม้กระป๋องและแปรรูป หดตัว 7.8% หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน สิ่งปรุงรสอาหาร หดตัว 15.0%
ส่วนสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัว 5.5% อัญมณีและเครื่องประดับ
(ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 8.0% เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบขยายตัว 5.5% เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 91.0% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ขยายตัว 73.1% รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ ขยายตัว 17.9%
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกสำคัญ การส่งออกไปยังตลาดสำคัญส่วนใหญ่ยังคงหดตัว ตามอุปสงค์จากต่างประเทศที่ลดลง
ต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของกิจกรรมทางการผลิตของประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ในทิศทางชะลอตัว ทั้งนี้ ภาพรวม การส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่างๆ สรุปได้ดังนี้ 1.ตลาดหลัก หดตัว5.5% โดยหดตัวในตลาดจีน 9.9% ญี่ปุ่น 4.6% อาเซียน(5 ประเทศ) 15.5% CLMV 0.3% ขณะที่สหรัฐฯ ขยายตัว 1.2% และสหภาพยุโรป 0.4% 2.ตลาดรอง หดตัว 5.1% โดยหดตัวในตลาดเอเชียใต้ 16.0% ทวีปออสเตรเลีย 3.4% ทวีปแอฟริกา 20.5% รัสเซียและกลุ่ม CIS 53.1% ขณะที่ตะวันออกกลาง ขยายตัว 13.8% และลาตินอเมริกา 7.1% และ 3.ตลาดอื่นๆ หดตัว 53.8% อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ หดตัว 52.3%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี