กระทรวงพลังงาน หนุนเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์และก๊าซชีวภาพ ช่วยวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มครัวเรือนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลดพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า และทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG) รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนราคา LPG
นายชำนาญ กายประสิทธิ์ พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน ได้เข้ามามีส่วนสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงาน ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) แบบ On Grid ที่เชื่อมต่อระบบสายส่งจากการไฟฟ้า 5 กิโลวัตต์ ให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มน้ำดื่ม บ้านศรีโพธาราม ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ภายใต้โครงการเพิ่มสมรรถนะด้านการบริหารและจัดการพลังงานครบวงจรในชุมชนระดับตำบลและเครือข่ายพลังงานชุมชน ปี 2564 ซึ่งสำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยประเมินศักยภาพ ข้อมูลเชิงเทคนิคและวิชาการ สำหรับเทคโนโลยีพลังงานที่จะส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนฯ
โดยผลลัพธ์จากการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงาน ช่วยลดรายจ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 90% มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10,000 บาท/เดือน จากการผลิตน้ำขายได้มากขึ้น และมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเพราะเชื่อมั่นในเทคโนโลยีพลังงานที่นำมาช่วยลดรายจ่าย โดยโครงการนี้นอกจากจะช่วยประหยัดค่าพลังงานแล้ว ยังเป็นแนวทางช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง พึ่งตนเองลดผลกระทบจากราคาพลังงานหรือค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยลดการพึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าในประเทศได้อีกด้วย
สำหรับโครงการระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากหลุมฝังกลบมูลฝอย เพื่อขยายการใช้พลังงานทดแทนในภาคครัวเรือน ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เป็นอีกโครงการที่กระทรวงพลังงานสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานระบบก๊าซชีวภาพแบบเครือข่าย ที่มีระยะทางรวมแล้วไม่น้อยกว่า 27 กิโลเมตร ให้กับกลุ่มผู้ใช้ก๊าซชีวภาพ ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จำนวน 300 ครัวเรือน โดยก๊าซจากหลุมฝังกลบขยะมีประมาณ 70,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วันใช้ผลิตไฟฟ้า 30,000 ลบ.ม./วัน และส่งไปให้ชุมชนบ้านป่าขาม และแม่ยุย เขตเทศบาล ต.บ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จำนวน 200 ครัวเรือน (เดิม) ยังเหลือก๊าซที่ต้องเผาทิ้งอีกเป็นจำนวนมาก ประมาณ 39,500 ลบ.ม./วัน การส่งให้ชุมชนใช้ประโยชน์ในโครงการนี้ 500-600 ลบ.ม./วัน จึงเกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งหลุมฝังกลบและครัวเรือน โดยจ่ายก๊าซชีวภาพให้ 300 ครัวเรือน ตลอด 24 ชั่วโมง ปริมาณกำหนดไว้ไม่เกิน 1,000 ลบ.ม./วัน
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยทดแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG)ในครัวเรือนได้ประมาณ 0.25 กิโลกรัม/ครัวเรือน/วัน เป็นระยะเวลา 365วัน/ปี หรือประมาณ 91.25 กิโลกรัม/ปี/ครัวเรือน โดยมีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 300 ครัวเรือน ช่วยลดการใช้ก๊าซหุงต้มได้ไม่น้อยกว่า 27,375 กิโลกรัม/ปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 574,875 บาท/ปี (ที่ราคา LPG 21 บาท/กิโลกรัม) เทียบเท่า 31.95 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ/ปี
“โดยการสนับสนุนชุมชนกลุ่มครัวเรือนให้ใช้ก๊าซชีวภาพมาแทนการใช้ก๊าซ LPG ที่ปัจจุบันราคาสูงขึ้นนั้น จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ภาคครัวเรือนได้อย่างเป็นรูปธรรม และลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุนราคาก๊าซ LPG อีกทั้งยังใช้หลัก BCG Model ในส่วนของ Circular Economy (เศรษฐกิจหมุนเวียน) โดยเป็นการนำวัสดุต่างๆ มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อเดินหน้ามุ่งสู่ Zero Waste หรือการลดปริมาณของเสียให้น้อยลง หรือเท่ากับศูนย์อีกด้วย” นายชำนาญ กล่าว