นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยหรือKTB เปิดเผยว่าเพื่อให้สอดคล้องกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.05%-0.25% ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออม สร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ให้ผู้ฝากเงินมีรายได้เพิ่มขึ้นในภาวะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น และปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เพิ่มขึ้น 0.20% ต่อปี เป็น 6.35% ต่อปี ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.15% ต่อปี เป็น 6.87% ต่อปี และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) 0.10% ต่อปี เป็น 6.87% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ธนาคารยืนหยัดดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมสนับสนุนให้เกิดการเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่อง รองรับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ จากปัจจัยความท้าทายรอบด้าน เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผ่านมาตรการความช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลือแบบตรงจุดและทันท่วงที และมาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อแก้หนี้อย่างยั่งยืน สำหรับลูกค้าประเภทบุคคลและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้แบบ Step Up พักชำระเงินต้นและชำระเฉพาะดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระหนี้เปลี่ยนประเภทหนี้ วงเงินกู้หมุนเวียน เป็นวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการเพิ่มสภาพคล่อง เป็นต้น