นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายการตลาดดิจิทัลและสื่อสารองค์กร บริษัท แสนสิริจำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมแรงงานข้ามชาติในไทยว่า ประเทศไทย มีจำนวนแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทดแทนแรงงานไทยที่ไม่นิยมทำงานก่อสร้างในระบบ ณ เดือนมีนาคม 2566ในระบบจำนวน 2.7 ล้านคน มีแรงงานข้ามชาติหญิงในธุรกิจก่อสร้างโดยส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิที่พึงมีมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มแรงงานด้วยกันแม้ภาคแรงงานในธุรกิจก่อสร้างจะมีความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในเรื่องสิทธิแรงงานไทยและสิทธิแรงงานต่างด้าว รวมถึงสิทธิแรงงานต่างด้าวสตรีและสิทธิเด็กลูกคนงานกลับเป็นประเด็นที่เป็นความท้าทายของภาคอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับสิทธิแรงงานนั้นมีความเข้มแข็งและชัดเจน แต่ในเชิงปฏิบัติยังมีแรงงานจำนวนมากที่ยังไม่ทราบสิทธิที่พึงได้รับของตน เพราะการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมีจำกัด และอุปสรรคทางภาษาทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกลดทอนสิทธิ และในบางส่วนมีความเข้าใจแต่ยังไม่สามารถเข้าถึงการบริการทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน
ล่าสุด บ.แสนสิริจับ มือ ศุภนิมิตร ดำเนินโครงการ การเข้าถึงแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัวในบ้านพักแรงงานก่อสร้าง (REACH) ซึ่งเป็นคือความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อระบุต้นเหตุปัญหาของการเข้าถึงสิทธิของแรงงานในภาคก่อสร้าง ซึ่งรวมถึงสิทธิในฐานะแรงงานและสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลพื้นฐาน ผ่านการลงเยี่ยมแรงงานเพื่อทำแบบสอบถามและการให้ความรู้เบื้องต้นแก่ผู้รับเหมาและตัวแรงงานระยะเวลาโครงการ 2 ปี โดยมีแคมป์ก่อสร้างนำร่องจำนวน 10 แคมป์ก่อสร้างครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล(นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ) โดยเจาะกลุ่มแรงงานหญิงก่อนเป็นกลุ่มแรกและขยายผลไปที่ครอบครัวของแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากกว่า 1,700 คน ประกอบด้วยแรงงานข้ามชาติหญิง 1,200 คน, แรงงานข้ามชาติชาย 400คน และผู้รับเหมา 100 คน เพื่อยกระดับสิทธิแรงงานในภาคก่อสร้างได้อย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้โครงการฯมุ่งเน้นการให้ความรู้ในเรื่องสิทธิดังนี้ 1.สิทธิแรงงาน : ประกันสังคม ประกันสุขภาพ การใช้วันลา การจ้างงาน ค่าจ้างและค่าล่วงเวลา (OT) 2.สิทธิสตรี : การจ้างงานที่เท่าเทียมการไม่กระทำความรุนแรง สุขภาพและอนามัยเจริญพันธุ์ 3.สิทธิเด็ก : สิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง สิทธิที่จะมีส่วนร่วม
จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างแรงงานข้ามชาติ ที่พักอาศัยในแคมป์ก่อสร้างโครงการของแสนสิริจำนวน 10 แคมป์ พบว่าเกิน 50% ของแรงงานที่ค้นพบ 85.7% จะพูดไทยไม่ได้ 15% ไม่เคยเข้าถึงสวัสดิการจากรัฐไทย 95% ไม่ได้มีการลงนามกับสัญญาว่าจ้างกับนายจ้างและ 58% ของกลุ่มแรงงานที่เป็นผู้หญิงขาดความรู้เรื่องการคุมกำเนิดและไม่มีการป้องกัน และ 87% แรงงานที่เป็นผู้หญิงถูกละเมิด
ทั้งนี้ จากข้อค้นพบนำมาสู่การคัดเลือกอาสาสมัครข้ามชาติเข้ามาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และสิทธิที่แรงงานข้ามชาติควรได้รับก่อนจะลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกับแรงงานข้ามชาติมีการสอนเรื่องภาษา เพื่อลดอุปสรรคในการสื่อสาร อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายในกลุ่มแรงงานข้ามชาติด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องข้อมูลต่างๆ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงแคมป์ที่พักอยู่ที่ไหนบ้าง เอกสารที่ต้องใช้สำหรับแจ้งเกิดเด็กมีอะไรบ้าง และอำเภอหรือสำนักงานเขตในพื้นที่อยู่ที่ใด เป็นต้น นอกจากนี้ทางโครงการ ยังทำโปรแกรมอบรมให้ความรู้ และเสริมทักษะอาชีพให้กับแรงงานในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทั้ง 3 ด้านในลักษณะของกิจกรรม โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทผู้รับเหมาที่เป็นผู้ว่าจ้างตรงของแรงงานข้ามชาติดังนี้ 1.การฝึกอบรมแกนนำแรงงานข้ามชาติ ให้ความรู้เพื่อสร้างระบบและกลไกการส่งต่อไปยังผู้ให้บริการ(หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน)ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 2.การฝึกอบรมแรงงานข้ามชาติด้านการรักษาพยาบาลและความรุนแรงทางเพศ 3.ฝึกอบรมทักษะอาชีพให้กับแรงงานหญิง เช่น สอนแต่งหน้า ทำผม เพื่อเสริมบุคลิก สร้างความมั่นใจ และยังสามารถเป็นอีก 1 ช่องทางสร้างอาชีพได้ในอนาคต 4.กิจกรรม การคัดแยกขยะในพื้นที่ก่อสร้างเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
“ในปี 2022 ที่ผ่านมาโครงการ Reach ได้อบรมแรงงานข้ามชาติไปแล้วกว่า 1,500 คน ซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติหญิงจำนวน 987 คนผลลัพธ์ที่จะได้จากโครงการ REACH ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมและสนับสนุนให้แรงงานในภาคก่อสร้างได้รับคือ 1.แรงงานข้ามชาติ ได้รับรู้ และเข้าใจมากขึ้นในเรื่องสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนด 2.ตัวแรงงานสามารถเข้าถึงบริการของรัฐและเอกชน เช่น การรักษาพยาบาล การแจ้งเกิด การวางแผนครอบครัว อนามัยเจริญพันธุ์การคุมกำเนิด 3.สร้างกลไก และเครือข่ายการช่วยเหลือให้กับแรงงานข้ามชาติได้” นายสมัชชา กล่าว
นอกจากการให้ความรู้กับตัวแรงงานแล้ว ในด้านของผู้รับเหมาก็มีจัดสัมมนา เพื่อเป็นการอัปเดตข้อมูลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน การจ้างงานอย่างมีจริยธรรม สิทธิสตรี/สิทธิเด็กและการคุ้มครอง การไม่ใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อพบเจอปัญหา ซึ่งจะช่วยลดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้รับเหมาและแรงงาน อีกทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น การแบกรับปัญหาในด้านของผู้รับเหมา การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยความไม่รู้และไม่เข้าใจ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และที่ปรึกษากฎหมายโครงการ REACH เป็นผู้ให้ความรู้และตอบข้อซักถามกับผู้รับเหมา โดยได้รับเกียรติจาก ILO Ms. MichelleLeighton Chief of the Labour MigrationBranch องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงและทีมงานได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการการ (REACH) ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากไอแอลโอ ณ โรงงาน Sansiri Precast Factory (PCF) อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งอยู่ภายใต้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยได้กล่าวว่า “แรงงานข้ามชาติหลายคนหวังจะได้ทำงานที่มีคุณค่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับไอแอลโอ แต่สิ่งแรกที่แรงงานข้ามชาติต้องรู้คือสิทธิของตัวเองในฐานะแรงงาน วันนี้เราได้เห็นผู้ฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติและการคุ้มครองทางสังคม เราดีใจที่ได้เห็นว่าผู้อบรมซึ่งเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขก็เป็นเป็นแรงงานข้ามชาติด้วยเช่นกัน ไอแอลโอมีความยินที่ได้ทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมและนายจ้าง เพื่อร่วมกันทำให้ความหวังของแรงงานข้ามชาติเป็นจริง
โครงการ REACH ยังได้รับเกียรติจากหน่วยงานต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมกิจกรรมถึง 2 ครั้งโดยในปี2565 ได้รับเกียรติจาก H.E.Mr.Collen Vixen Kelapile ประธานคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ และ Ms.Gita Sabharwal ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทยลงพื้นที่เยี่ยมชมการทำงานส่งเสริมสิทธิแรงงานหญิงข้ามชาติและครอบครัว ที่ แคมป์ก่อสร้าง ภายใต้การดูแลของบริษัท แสนสิริ ที่จังหวัดสมุทรปราการ (โซนประชาอุทิศ 90)โดย H.E.Mr.Collen Vixen Kelapile ประธานคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ยังได้แบ่งปันว่าการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องภายใต้ความร่วมมือของหลากหลายภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มแรงงานหญิงข้ามชาตินี้ ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะนำไปสู่การสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ขณะที่Ms.Gita Sabharwal ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมการผนึกกำลังกันขององค์การสหประชาติ ภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาสังคม ในการร่วมดำเนินงานครั้งนี้
“โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่อง เพื่อสร้างกลไกที่สามารถให้แรงงานเข้าถึงสิทธิของตนได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นการส่งเสริมสิทธิแรงงานในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเพื่อยกระดับมาตรฐานเรื่องสิทธิแรงงานให้เทียบเท่าในระดับสากลสอดคล้องกับการให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่แสนสิริยึดถือเสมอมาเราได้มุ่งมั่นที่จะสร้างความเท่าเทียมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางสังคมในหลากหลายมิติคนทุกคนมีสิทธิและหน้าที่ แต่ความเหลื่อมล้ำและไม่เข้าถึงข้อมูลทำให้คนบางกลุ่มไม่ได้รับทราบสิทธิที่ตัวเองพึงมี สิทธิแรงงานเป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชนที่คนที่ทำอาชีพแรงงานในธุรกิจก่อสร้างจำเป็นต้องทราบ เพื่อให้เขาสามารถใช้สิทธิที่พึงมีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยแสนสิริวางเป้าหมายผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากกว่า 1,700 คน ในระยะเวลา 2 ปี”นายสมัชชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี