นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริ คาดว่าจะสามารถสร้างผลงานกำไรในปี 2566 ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทุบสถิติใหม่ในรอบ 39 ปี หลังแนวโน้มผลงานกำไรในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566คาดว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ จากปีก่อนที่มีกำไรทั้งปีอยู่ที่ 4,280 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำผลงานที่ดีมากขึ้นอีกในไตรมาส 4 ปี 2566

โดยแสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 อีก 22 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,600 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ไฮไลท์โครงการแนวราบคือการเปิดตัว “บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย” มีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น ระดับราคา 70 - 165 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดพรีเซลโครงการภายใต้แบรนด์ “เศรษฐสิริ” อีก 5 โครงการใหม่พร้อมกัน ได้แก่ “เศรษฐสิริบางนา-สุวรรณภูมิ”, “เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์”, “เศรษฐสิริ เสรีไทย”,“เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-สาย 1” และ “เศรษฐสิริกรุงเทพ-ปทุมธานี 2” ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากมีกระแสตอบรับที่ดีในแบรนด์เศรษฐสิริตามแผนเปิดตัว 10 โครงการใหม่ในปี 2566 รวมถึงเตรียมเปิดตัวโครงการในแบรนด์ “อณาสิริ” คือ “อณาสิริ ปิ่นเกล้า - กาญจนาฯ” และ “อณาสิริ พายัพ เชียงใหม่” โดยเศรษฐสิริ 5 โครงการใหม่ และ “อณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” เตรียมจัดงานพรีเซลพร้อมกันวันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 พร้อมเตรียมเปิดตัว “อณาสิริ เวสต์เกต” และ “สราญสิริ เวสต์เกต” ในวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายน 2566

ในขณะที่คอนโดมิเนียม แสนสิริเตรียมรุกตลาดคอนโดลักซ์ชัวรี่ กับ New Luxury Condominium ในย่านอารีย์และราชเทวี จำนวน 2 โครงการใหม่ที่เตรียมเปิดขายเดือนตุลาคม 2566 คือ “เวีย อารีย์” มีเพียง 114 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท นับเป็นการกลับมาในรอบ 11 ปี ของแบรนด์ “เวีย” พร้อมเตรียมเปิดตัว “ชูช์ ราชเทวี” มูลค่าโครงการ 5,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท และสานต่อความสำเร็จของแคมปัสคอนโดฯและกลุ่มคอนโดฯราคาเข้าถึงง่ายกับแบรนด์ “ดีคอนโด” ในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,900 ล้านบาทรวมถึงจะรุกตลาดต่างจังหวัดและเมืองท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง