นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริ เล็งเห็นปัญหามลภาวะทางอากาศในภาคเหนือ อันเกิดจากการเผาป่าที่เป็นสาเหตุหลัก จึงเกิดแนวคิดในการ ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชน รวมถึงต่อยอดให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต เกิดเป็นโปรเจกต์การสนับสนุนต้นกล้ากาแฟ เพื่อขยายพื้นที่ในการเพาะพันธุ์กาแฟไทยให้กับเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเราเรียกโปรเจกต์นี้ว่า “Future Harvest”
โดยกาแฟ พืชทางเลือกใหม่ แทนการเผาไร่ที่ทำลายป่า ซึ่งในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ พืชเศรษฐกิจอย่างข้าวโพดและอ้อย ต้องใช้วิธีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก กลายเป็นหนึ่งในต้นตอของฝุ่นควันและการสูญเสียพื้นที่ป่า โครงการ “Future Harvest” จึงมุ่งเน้นส่งเสริมการปลูกกาแฟพันธุ์ดีที่สามารถปลูกวนในระบบเกษตร ช่วยรักษาป่า ลดการบุกรุก และเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกร
ทั้งนี้ในปี 2024-2025 แสนสิริได้นำร่องสนับสนุนต้นกล้ากาแฟพันธุ์ดีจำนวน 5,200 ต้น ให้กับเกษตรกร 15 รายในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ คิดเป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 26 ไร่ โดยมี "ไร่แสนชัย" ของ นายแสนชัย จูเปาะ เจ้าของไร่ Saen Chai Estate ที่ได้รับรางวัลในระดับประเทศ เป็นที่ปรึกษาและต้นแบบสำคัญในการปลูกและแปรรูปกาแฟพิเศษไทย
ต้นกล้ากาแฟที่แสนสิริสนับสนุนนี้ จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 57.2 ตันต่อปี ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลผลิตกาแฟที่ปลูก โดยเมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 ต้นกาแฟนี้ จะให้ผลผลิตเฉลี่ย 1 กิโลกรัมต่อต้น คิดเป็นรายได้รวมกว่า 1.56 ล้านบาทต่อปี และปีที่ 5 เป็นต้นไป รายได้อาจเพิ่มขึ้นถึง 2.73 ล้านบาทต่อปีจากผลผลิตที่มากขึ้น
นายแสนชัย กล่าวว่า กาแฟยังสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับพืชผลดั้งเดิม โดยแต่ละครอบครัวสามารถมีรายได้ "หลักแสนบาทต่อครอบครัวต่อปี" ทำให้เกษตรกรสามารถส่งเสียลูกให้เรียน สร้างบ้าน มีรถ และเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นได้ แตกต่างจากพืชผลอื่น ๆ กาแฟมี "ตลาดโลก" ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาพ่อค้าคนเดียว และมีทางเลือกในการส่งออกหากราคาในประเทศต่ำ กาแฟยังเป็น "พืชที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย จึงช่วยปกป้องคุณภาพดิน แหล่งน้ำ และระบบนิเวศโดยรอบ ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนบนพื้นที่สูงที่ "รักป่า" และ "ไม่ต้องทำลายบ้านของพวกเขา" โดยเฉพาะ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "ปอดของเอเชีย" จากพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่ ทำให้กาแฟเป็นเครื่องมือสำคัญในการอนุรักษ์ การปลูกกาแฟยังสอดคล้องกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น เป็นเหตุผลให้คนรุ่นใหม่ที่ไปศึกษาหรือทำงานในเมืองกลับมายังบ้านและครอบครัว ช่วยส่งเสริมความผูกพันในครอบครัว และช่วยให้ชุมชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน โดยไม่ต้องถูกบังคับให้ตัดไม้ทำลายป่าหรือหันไปใช้การปฏิบัติที่ทำลายล้างเนื่องจากความสิ้นหวัง
"การเป็นผู้นำด้วยการเป็นแบบอย่าง แทนที่จะแค่บอกให้คนอื่นหยุดทำสิ่งที่ไม่ดี การแสดงให้เห็นว่ากาแฟเป็นอาชีพที่ "ยั่งยืน" และเป็นไปได้และความสำเร็จที่ทุุกคนได้เห็น จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเปลี่ยน จากการทำเกษตรกรรมที่ทำลายล้าง มาเป็นการทำเกษตรสร้างสรรค์"
การนำร่องสนับสนุนต้นกล้าพันธุ์กาแฟไทยให้กับเกษตรกร ถือเป็นพันธุ์กาแฟที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกและมีความต้องการสูง นอกจากนี้ การปลูกกาแฟยังช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนในระยะยาว และช่วยเพิ่มพื้นที่ป่า ลดมลภาวะทางอากาศ หรือฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือ
นายสมัชชา กล่าวว่า โปรเจกต์ “Future Harvest” ยังนับเป็นโครงการที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) ของแสนสิริในทุกมิติ ทั้งในด้าน Environment (E) แสนสิริได้ดำเนินการสนับสนุนให้เกษตรกรลดการเผาไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดการปล่อยคาร์บอน ส่วน Social (S) แสนสิริพยายามสร้างอาชีพทางเลือกให้เกษตรกรในท้องถิ่น เช่น ธุรกิจด้านกาแฟ และ Governance (G) ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน
สำหรับแนวทางการปฏิบัติของโครงการ “Future Harvest” ไม่เพียงแต่ลงมือทำ แต่ยังมีระบบลงทะเบียนเกษตรกร และมีทีมของคุณแสนชัยร่วมดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกิจกรรมลงพื้นที่ประจำปีโดยทีมแสนสิริ เพื่อประเมินและส่งเสริมการดูแลต้นกล้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้อนาคตในระยะต่อไป แสนสิริมีแผนขยายการแจกต้นกล้ากาแฟสู่กลุ่มเกษตรกรรายใหม่ และต่อยอดสู่พื้นที่อื่น ๆ เพื่อขยายผลสำเร็จจาก อ.กัลยาณิวัฒนา ไปสู่ชุมชนที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านจากการเผาป่า สู่การอนุรักษ์ป่าด้วยโมเดลกาแฟยั่งยืน
"เราหวังว่าการช่วยเหลือเกษตรกรครั้งนี้ จะช่วยให้อำเภอกัลยาณิวัฒนา ที่นำโดย ไร่แสนชัย สามารถเป็นพื้นที่ต้นแบบที่ถ่ายทอดองค์ความรู้และขยายผลสู้พื้นที่อื่นได้ และเกษตรกรที่ได้รับต้นกล้ากาแฟไปสามารถนำไปเพาะพันธุ์ เพื่อส่งมอบให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ต่อไปได้ ส่งเสริมให้เขาได้เรียนรู้ในการเป็นผู้รับและผู้ให้ในเวลาเดียวกัน ในระยะถัดไป อาจขยายผลไปยังอำเภอใกล้เคียงหรือพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า" นายสมัชชากล่าว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี