นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2566มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,041 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 20,897.87 ล้านบาท ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 434 ราย คิดเป็น 7.19% รองลงมาคือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 405 ราย คิดเป็น 6.70% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร262 ราย คิดเป็น 4.34% ตามลำดับ
ช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาทมีจำนวน 3,971 ราย คิดเป็น 65.73% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,985 รายคิดเป็น 32.86% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาทมีจำนวน 67 ราย คิดเป็น1.11% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทจำนวน 18 ราย คิดเป็น0.30% ตามลำดับ
“การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนเมษายน 2566 เพิ่มขึ้น12.37% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาและภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ10 ปี (2557-2566) เป็นจำนวนมากถึง 32,223 ราย”
ขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายน2566 มี 936 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 5,177.20 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 115 ราย คิดเป็น 12.29% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 53 ราย คิดเป็น 5.66% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 23 ราย คิดเป็น 2.46% ตามลำดับ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก(มกราคม-เมษายน) รวมทั้งสิ้น 32,223 รายเพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม-เมษายน 2565) อย่างไรก็ตามการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนเมษายน 2566 มีการชะลอตัวลงไปบ้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากจำนวนวันทำการราชการที่น้อยกว่าเดือนก่อน และเป็นไปตามแนวโน้มปกติของการจดทะเบียนที่จะมีจำนวนจัดตั้งลดลงในช่วงเดือนเมษายน
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจหนึ่งที่ส่งผลต่อการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 คือ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีอัตราการจัดตั้งเพิ่มขึ้นถึง 1 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 5.6 เท่า ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.7 เท่า ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร/
ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 68% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่มขึ้น 41% การเติบโตดังกล่าว คาดว่าเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปี 2566อยู่ที่ประมาณ 42,000-45,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 40,000-42,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 75,000-78,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 72,000-77,000 ราย
ปัจจุบันมีธุรกิจดําเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 จำนวน 871,041 ราย มูลค่าทุน 21.23 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นบริษัทจำกัด จำนวน 667,100 ราย คิดเป็น 76.59% ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,544 ราย คิดเป็น 23.25% และบริษัท มหาชน จำกัด จำนวน 1,397 ราย คิดเป็น0.16% ตามลำดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี