ll บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) ผู้ให้บริการนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) แบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ของการที่จะดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและบริหารจัดการจัดหาประกันภัยต่อให้กับธุรกิจประกันภัยของประเทศไทย จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยต่อของคณะผู้ก่อตั้งมากกว่า 20 ปีประกอบด้วย “ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์, ยุพเรศ พิริยะพันธุ์ และพรเกษม เหล่าฤทธิรัตน์” และเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ทั้งด้านธุรกิจ และแนวโน้มในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQR กล่าวกับ “มุมมองนักบริหาร” ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) และธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business)

“ธุรกิจหลักของบริษัท คือ การให้บริการจัดหาประกันภัยต่อที่เหมาะสมและเป็นที่ต้องการให้กับบริษัทประกันภัยของประเทศไทย ทำให้บริษัทประกันภัยมีศักยภาพที่สูงขึ้นในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการรับประกันภัยและเงินกองทุนโดยรวมของบริษัท ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) ทำให้มีขีดความสามารถในการต่อยอดธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย และการให้บริการเสริมต่างๆ ทั้ง ด้านการรับประกันภัยรวมไปถึงการบริหารจัดการสินไหมทดแทน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงานจัดหาประกันภัยต่อที่มีมากกว่า 20 ปี จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก”

ขณะเดียวกัน ยังมีการต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อซึ่งเป็นธุรกิจหลัก มาสู่ธุรกิจที่ให้บริการ (Service) โดยจัดตั้งบริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท คอร์สสแควร์ จำกัด โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 55% ดำเนินธุรกิจเป็น Software-as-a-Service มุ่งเน้นด้าน Learning Management Platform ให้บริการกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการให้บริการอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของการเรียนการสอน เนื่องจากการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ทันสมัยซึ่งมีแนวโน้มเป็นที่สนใจของบริษัท องค์กร และธุรกิจการให้บริการฝึกอบรม เป็นต้น ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้วจำนวน 3 ราย และในปี 2566 ตั้งเป้าหมายการมีลูกค้าเพิ่มอีก 2-3 ราย

“ความโดดเด่นของ TQR” คือ บริษัทฯ มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ และการจัดหาประกันภัยต่อที่เสริมศักยภาพการรับประกันภัยให้กับบริษัทประกันภัยของประเทศไทย และมีบุคลากรที่มีความชำนาญและพร้อมให้บริการด้านอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้ารายย่อย ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ตลอดจน ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต พร้อมทั้งการพัฒนาการทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สังคม และธรรมาภิบาล

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 TQR มีการปรับกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจ โดยพัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัย เพื่อลดความเสี่ยงหรือภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้ง การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ (Professional Indemnity) การประกันภัย Cyber ที่หลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญมากขึ้น การประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งขณะนี้ ตลาดมีความต้องการเป็นอย่างมาก จากกระแสการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การประกันที่เกี่ยวข้องกับกระแสของ Environmental

ในส่วนของธุรกิจให้บริการ (Service) ของ บริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน อยู่ระหว่างการจัดหาบริการเพิ่มเติม และปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อเสริมการให้บริการของ Platform ให้มีความครอบคลุมกับความต้องการในการฝึกอบรมให้มากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ จะได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆ พัฒนาและนำเสนอหลักสูตรอบรมเพื่อเสริมทักษะการทำงานให้กับบุคลากรทั้งภาคเอกชนทั่วไปและภาครัฐ และยังได้ร่วมกับองค์กรที่ปรึกษาชั้นนำในการทำPlatform สำหรับการอบรมพัฒนาความรู้ให้กับบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นหลักสูตรที่มีความจำเป็นสำหรับบุคลากรในสายอาชีพดังกล่าว โดย Platform นี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และจะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้

“ชนะพันธุ์” เล่าถึง การทำงานร่วมกับ บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) (TQM) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ว่า เป็นการ Synergy กันในเครือ โดยปัจจุบัน TQM และ TQR ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย และนำเสนอขายให้กับบริษัทประกันภัย โดย TQR จะวางแผนในการพัฒนาประกันภัยต่อ เพื่อกระจายความเสี่ยงภัยให้กับบริษัทประกันภัย โดยมุ่งเน้นธุรกิจ PA, Health, Life และ ESG รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นต้น

สำหรับมุมมองส่วนตัว เชื่อว่า ทุกวันนี้ธุรกิจต่างๆ ต้องมีการปรับตัวตามการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมของผู้บริโภค พัฒนาการทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว รวมไปถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและเข้มงวดมากยิ่งขึ้น TQR จึงมีการปรับกลยุทธ์ ทั้ง การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในทุกมิติ รวมทั้ง การพัฒนาทักษะบุคลากรของบริษัทฯ ให้มีความรู้และความเข้าใจในบริบทที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์

สุดท้าย บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านนายหน้าประกันภัยต่ออย่างยั่งยืน โดยเฉพาะนายหน้าประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ โดยมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ของทุกปีและองค์กรจะขับเคลื่อนไปได้ เราต้องสร้างโอกาสและศักยภาพให้กับพนักงานทุกคน ที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน เพราะเราเชื่อว่า ความเสี่ยงคือโอกาส และจะช่วยผลักดันให้ TQR เติบโตได้เป็นอย่างดีในอนาคต

อนันตเดช พงษ์พันธุ์