นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่าข้อมูลสถิติจาก Worldsteel Association รายงานว่า ในปี 2565 ประเทศที่มีการนำเข้าเหล็กสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่สหภาพยุโรป 48.1 ล้านตัน สหรัฐอเมริกา 28.9 ล้านตันและเยอรมนี 21 ล้านตัน สำหรับประเทศไทยมีการนำเข้าเหล็กในปริมาณ 13.4 ล้านตัน เป็นอันดับที่ 8ของโลก
ขณะที่สถานการณ์การนำเข้าเหล็กของไทยในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ตามข้อมูลของ Global Trade atlas พบว่าไทย มีปริมาณการนำเข้า 4.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 3 ประเทศหลักที่มีสัดส่วนการนำเข้าสูงสุด ได้แก่ (1) จีน (42.76%)(2) ญี่ปุ่น (37.31%) และ (3) เกาหลีใต้ (12.15%)จากการนำเข้ารวมทั้งหมด
สำหรับประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเหล็กรายใหญ่ของโลก ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 จีนมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งสิ้น 29.7 ล้านตัน โดย 5 ประเทศแรกที่จีนมีการส่งออกมากที่สุด ได้แก่ (1) เกาหลีใต้3 ล้านตัน (10.10%) (2) เวียดนาม 2.7 ล้านตัน(9.26%) (3) ตุรกี 2.2 ล้านตัน (7.35%)(4) ไทย 1.8 ล้านตัน (6.28%) และ (5) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1.3 ล้านตัน (4.54%) ของการส่งออกรวมทั้งหมด
นายนพดลกล่าวว่าคต. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของไทยที่คำนึงถึงทุกภาคส่วน ซึ่งในส่วนของการหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า ไทยมีกฎหมายว่าด้วยการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti - Circumvention : AC) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับความเสียหายจากการหลบเลี่ยงมาตรการ และใช้ในการแก้ไขปัญหาการเลี่ยงการชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti - Dumping : AD) และอากรตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty : CVD)
ทั้งนี้ คต. สนับสนุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบหรือข้อตกลงทางการค้า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคให้ได้ของมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมทั้งนี้ คต. ในฐานะหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกทางการค้าและปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้า จะกำกับและดูแลให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบการมีข้อกังวล หรือได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจซึ่งเกิดจากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยอาจเป็นการทุ่มตลาดหรือมีการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด สามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อกำหนดในการยื่นคำขอให้ คต. เปิดไต่สวนมาตรการ AD หรือ AC เพิ่มเติมได้
การดำเนินการไต่สวนเพื่อกำหนดใช้มาตรการAD หรือ AC เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามที่ พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ กำหนด ซึ่งเป็นกระบวนการที่โปร่งใส รับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย และข้อมูลที่นำมาใช้พิจารณามีการตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดรอบคอบ สำหรับในขั้นตอนการเปิดไต่สวนนั้น เมื่อคต. ได้ตรวจสอบข้อมูลคำขอของผู้ยื่นคำขอแล้วพบว่าครบถ้วนถูกต้อง คต. จะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาด (ทตอ.) เพื่อพิจารณาเปิดไต่สวนต่อไปดังนั้นจึงขอให้ภาคเอกชนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการไต่สวนและการดำเนินการของ คต. ว่าดำเนินการอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นสำคัญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี