วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
แบงก์กังวลเศรษฐกิจโลกโตต่ำ  จับตาการกลับมาฟื้นตัวของภาคส่งออก

แบงก์กังวลเศรษฐกิจโลกโตต่ำ จับตาการกลับมาฟื้นตัวของภาคส่งออก

วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566, 18.32 น.
Tag : เศรษฐกิจโลกโตต่ำ
  •  

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจากจะเติบโตได้ระดับ 4.3% เนื่องจากภาพรวมด้านการเมืองมีความชัดเจนขึ้นประกอบกับนโยบายกระตุ้นการใช้ง่ายและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2568 โดยอาจมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเป็นตัวแปร

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวแม้ในระยะที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ตอนนี้ได้รัฐบาลใหม่ คาดการบริโภคภายในประเทศช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามด้วยการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยกว่า 17.5 ล้านคน โดยเฉลี่ยมีการเดินทางเข้ามาเดือนละ 2.2 ล้านคน เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งธนาคารคาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 3 ล้านคน ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนนี้ ทำให้ทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 30 ล้านคน


ทั้งนี้ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ในระดับเกือบ 40 ล้านคน ในปี 2562 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจ โลกยังมีความไม่แน่นอนอยู่หลายประการ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงปรับลดคาดการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดจาก 3.6% มาอยู่ที่ 1.5% ของจีพี การขาดดุลปีงบประมาณคาดอยู่ที่ 4.0% ต่อจีดีพี ในปี 2567 จาก 3.8% ต่อจีดีพี ในปี 2566

สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 น่าจะล่าช้า ในขณะที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้มีทิศทางอย่างไร คงเป็นสิ่งที่ต้องมีการติดตามดู และสะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของประเทศ ธนาคารได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 ลงจาก 4.2% มาอยู่ที่ 3.3% และว่าคาดเศรษฐกิจเติบโตที่ 4.2% ในปี 2567 จากเดิมคาดไว้ที่ 1.5% ด้วยเหตุนี้ จึงมีการปรับลดการเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.3% จากเดิมที่คาดไว้ 1.7% โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 1.5% ในปี 2567 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.3% ในขณะที่คงคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 ที่ 1.4%

“ธนาคารฯยังกังวลปัจจัยเสี่ยงปีหน้า คือ ปัญหาเศรษฐกิจโลกน่าจะโตต่ำกว่า 3% คาดว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มสูงอยู่ที่ 2.1% จากเหตุน้ำมันอาจจะกลับมาสูงขึ้นได้ ขณะที่เงินบาทในช่วงปลายปีน่าจะแข็งค่าอยู่ที่ 34 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตัวเลขส่งออกยังคงติดลบแต่จะมากหรือน้อยคงต้องดูว่าช่วงเวลาที่เหลือส่งออกไทยจะขยายตัวหรือไม่” นายทิม กล่าว

อย่างไรก็ตาม การค่อยๆ ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการคลังและเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ยังไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ยังคงมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่อาจมีการกลับมาพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นโยบายการคลังและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ชัดเจนกว่านี้น่าจะทำให้เห็นความชัดเจนในทิศทางดอกเบี้ยนโยบายยิ่งขึ้น และธนาคารฯคงจะเฝ้าตามดูว่าการประกาศใช้นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลจะออกมานั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะออกมาอย่างไรและจะใช้เงินจากที่ใดบ้าง จึงยังไม่สามารถประเมินอะไรได้ในตอนนี้มากนัก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved