‘ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่’จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมตัวร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล-กระทรวงพลังงาน ช่วยตรึงราคาก๊าซ NGV หวั่นปรับขึ้น 20 กว่าบาท เหตุต้นทุนสูง

19 กันยายน 2566 ที่โรงแรมซันธารา อ.เมืองฉะเชิงเทรา สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดเวทีแถลงการณ์ “ปัญหาน้ำมันดีเซลลดราคา ก๊าซNGVขึ้นราคาภาคขนส่งอยู่อย่างไร?” โดยมีนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยนายจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการจังหวัดฉะเชิงเทรา , นางสุนันทา สุขสงวน ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่จังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งขนาดใหญ่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทราได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่จำนวนมาก เนื่องจากราคาก๊าซ NGV ที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันที่ 16 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา จากราคา 18.59 บาท/กก. เป็น 19.59 บาท/กก. ทำให้ต้นทุนราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีแผนจะปรับราคาก๊าซ NGV เพิ่มขึ้นอีก 1 บาท/กก. ในวันที่ 16 ธันวาคม 2566 รวมขึ้นราคา 2 บาท/กก. ทำให้ราคาขายอยู่ที่ 20.59 บาท/กก. สวนทางกับราคาพลังงานตัวอื่น เช่น ดีเซล หรือค่าไฟฟ้า ที่มีการปรับลง

ทั้งนี้ ก๊าซ NGV ถือเป็นพลังงานสะอาดที่ก่อให้เกิดมลภาวะในระดับต่ำเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานอื่นๆโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในภาคขนส่ง การส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซ NGV เพื่อทดแทนการใช้น้ำมันดีเซลในภาคขนส่ง จึงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการพิจารณากำหนดราคาก๊าซ NGV จะก่อให้เกิดแรงจูงใจต่อผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเชลเป็นเชื้อเพลิงปรับเปลี่ยนมาใช้ก๊าช NGV แทน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะ  ซึ่งการปรับราคาก๊าซ NGV ขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ จึงเป็นราคาที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล

“สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะนำเรื่องดังกล่าวยื่นขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล กระทรวงพลังงาน ช่วยตรึงราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ราคา 18.59 บาท/กิโลกรัม ต่อไป เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือเกิดมลภาวะที่เป็นพิษอย่างน้อยที่สุด และช่วยผู้ประกอบการรถขนส่งให้อยู่ได้ ไม่มีต้นทุนที่สูงมากเกินไป และแข่งขันราคาได้” นายอภิชาติ กล่าว