นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 7,424 ราย เพิ่มขึ้น 8.41% เมื่อเทียบกับกรกฎาคม2566 และเพิ่มขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับสิงหาคม 2565 มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 24,905.75 ล้านบาทโดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,007 รายเทียบกับกรกฎาคม 2566 เพิ่ม 7.50% เทียบกับสิงหาคม 2565 เพิ่ม 3.40% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 7,038.02 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ส่วนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม8 เดือน ปี 2566 (มกราคม-สิงหาคม) มีจำนวน 61,558 ราย เพิ่มขึ้น 14.90% และจดทะเบียนเลิกจำนวน 10,971 ราย เพิ่มขึ้น 10.90%
นายทศพลกล่าวว่า หากดูสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เฉพาะเดือนสิงหาคมถือเป็นการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2566และเป็นยอดสูงสุด 10 ปี เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 ที่ทุกเดือนทำสถิติสูงสุด เมื่อเทียบย้อนหลังเฉพาะเดือนไป 10 ปี และยอดรวมตั้งใหม่ 8 เดือน ก็เป็นยอดสูงสุดในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกัน นับตั้งแต่ยอดรวม 8 เดือนปี 2557-2566
สำหรับปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้น มาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยสะท้อนจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วง 8 เดือนปี 2566 มีจำนวนการจดจัดตั้งเพิ่มขึ้น 60.66% แยกเป็นธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่ม189% ตัวแทนธุรกิจการเดินทาง เพิ่ม 141% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 103% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารเพิ่ม 45.46% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่ม 42.86% มีสัดส่วนคิดเป็น 7.94% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมดในช่วง 8 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตกว่า 1 เท่าตัว เช่น ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืช เพิ่ม 207% จากนโยบายส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก ธุรกิจบริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่ม 170% จากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว ทำให้มีธุรกิจที่รับบริหารจัดการเกี่ยวกับที่พักอาศัย โรงแรมรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจให้เช่าและให้เช่าแบบลิสซิ่งยานยนต์ เพิ่ม 140% จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตและภาคธุรกิจที่นิยมการเช่ารถยนต์มากขึ้น และธุรกิจการปลูกพืชประเภทเครื่องเทศเครื่องหอมยารักษาโรคและพืชทางเภสัชภัณฑ์ เพิ่ม 112%
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 32,000-39,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 79,000-86,000 ราย
ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้นณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 จำนวน 888,090 รายมูลค่าทุน 21.51 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,589 ราย คิดเป็น 22.81% บริษัทจำกัด จำนวน 684,080 ราย คิดเป็น 77.03% และบริษัทมหาชน จำกัด จำนวน 1,421 ราย คิดเป็น0.16% ตามลำดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี