นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนกันยายน 2566 ว่า ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 90 จากเดิม 91.3 ในเดือนสิงหาคมซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวลดลงเกือบทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ยกเว้นต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น
ความเชื่อมั่นฯ ที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากภาคการผลิตที่ชะลอตัวจากกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและรายได้ภาคเกษตรที่ลดลงขณะที่อุปสงค์จากประเทศคู่ค้าชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ยังมีการอ่อนค่าของเงินบาทเนื่องจากเงินทุนไหลออกจากประเทศในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น อีกทั้งน้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้ารวมถึงกระทบต่อวัตถุดิบสินค้าเกษตร
แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการรัฐช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนโดยปรับลดราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ลดค่าไฟฟ้าจาก 4.45 เป็น 3.99 บาท/หน่วย ทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งลดลง รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวยังคงส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศ ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เศรษฐกิจในประเทศ
ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.3 ลดลงจาก 99.5 ในเดือนสิงหาคมเนื่องจากความกังวลต่อแนวโน้มราคาพลังงานที่สูงขึ้น ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอนุมัติฟรีวีซ่าชั่วคราวให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ
ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องการให้ธปท. และสถาบันการเงินทั้งรัฐและเอกชน ดูแลส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลดลง รวมถึงเร่งรัดการ
จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมทั้งเสนอให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมศุลกากร เข้มงวดในการตรวจจับสินค้านำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพจากต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเสนอให้ภาครัฐสนับสนุนการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินคืนในระบบ Net Meteringและสนับสนุนให้มีการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (Renewal Energy) เพื่อรองรับความเป็นกลางทางคาร์บอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี