นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะผู้บริหาร ส.อ.ท. ได้เข้าพบนายปานปรีย์ พหิทธานุกรรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เพื่อหารือความร่วมมือระหว่างกัน โดยการหารือครั้งนี้ ส.อ.ท. เสนอให้มีการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ผ่านการจัดตั้งกลไกร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมทั้งเสนอให้มีการขยายโอกาสทางการค้าให้กับสินค้าของไทยและส่งเสริมการค้าในตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ การสนับสนุนการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) โดยเร็วกับสหภาพยุโรปสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น รวมทั้งกำหนดประเทศเป้าหมายทางการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมของไทย
ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศมีนโยบายหลักในการใช้บทบาททางการทูตเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ ความมั่นคง เทคโนโลยี และความเหลื่อมล้ำ โดยจากการหารือครั้งนี้ทางกระทรวงฯ มีความยินดีให้การสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกด้านเศรษฐกิจต่างประเทศกับภาคเอกชน สำหรับใช้ในการวางแผนธุรกิจ และสนับสนุนการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชนต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ คณะทำงาน Supply Chain Security และความมั่นคงทางด้าน Supply Chain ของ ส.อ.ท.ได้หารือแนวทางการจัดการปัญหาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ร่วมกับนายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่ง ทาง ส.อ.ท. ได้นำเสนอแนวทางความร่วมมือกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 3 แนวทาง ดังนี้ 1.จัดตั้งวอร์รูม (War Room) ตรวจสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ระหว่าง ส.อ.ท. และ สมอ. 2.ทบทวนแนวทางด้านมาตรฐานเพื่อปกป้องสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ส่งเสริมการกำหนดมาตรฐานบังคับ 3.อำนวยความสะดวกให้กลุ่มอุตสาหกรรมภายใต้กลไกการใช้ “องค์กรกำหนดมาตรฐาน” (Standards Developing Organization, SDO)ในการร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ทาง สมอ.ได้สนับสนุนแนวทางความร่วมมือเพื่อตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐานรวมถึงมีนโยบายในการออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อสอดคล้องกับปริมาณสินค้าในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสามารถใช้ประโยชน์จากกลไก SDO ในการจัดทำมาตรฐาน เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางสมอ.ได้ดำเนิน 8 มาตรการเชิงรุกภายใต้ภารกิจ Quick win เพื่อจัดการสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานให้หมดไปภายใน 6 เดือนซึ่งประกอบด้วย 1. มาตรการ 3 ร. (เร่งตรวจ เร่งกำกับ เร่งปราบ) 2. มาตรการจับจริง-ปรับจริง หากพบสินค้าไม่แสดงเครื่องหมาย มอก. 3.มาตรการเชื่อมโยงข้อมูล โดยการชี้แจงให้ทุกแพลตฟอร์มทราบมาตรการในการดำเนินคดีกับสินค้าที่มีการโฆษณาโดยไม่แสดงเครื่องหมาย มอก. 4.มาตรการให้ความรู้ 5.มาตรการขยายผลอย่างยั่งยืนโดย สมอ. จะขยายผลให้ทราบถึงแหล่งที่มาของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด
6.มาตรการสร้างความตระหนัก โดยขอความร่วมมือแพลตฟอร์มให้แสดงอินโฟกราฟิกแจ้งเตือนผู้บริโภคให้รู้ 7.มาตรการใกล้ชิดประชาชน สมอ. จะทำคอนเทนต์ออนไลน์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐาน 8.มาตรการเพิ่มอาวุธมีการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจศึกษาข้อกฎหมายข้อจำกัด และแนวทางการแก้ปัญหาในการลงโทษร้านค้าออนไลน์ที่กระทำความผิด รวมทั้งผู้มีส่วนได้ผลประโยชน์จากการขายสินค้าด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี