“บางกรวย” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดนนทบุรี แต่มีความน่าสนใจเพราะเป็นจุดเชื่อมระหว่างความเจริญของบ้านเมืองสมัยใหม่เพราะอยู่ติดกับเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีภาพของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมทั้งการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมมากมาย
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงร่วมมือกับเทศบาลเมืองบางกรวยจัดใหญ่นำของดีของเด็ดมาไว้ในงาน “หลงเสน่ห์บางกรวย ตอน ชีวิตติดป๊อปที่บางกรวย” ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ชวนคนไทยตามรอยเส้นทางท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเพียงสั้น ๆ แต่สร้างเสน่ห์ให้หลงรักบางกรวยได้ง่าย ๆ ผ่านนิทรรศการ “จากรากเติบโตเป็นต้นกล้า: บางกรวยดินแดนแห่งสุขที่ยั่งยืน” และนิทรรศการภาพถ่าย “หลงเสน่ห์บางกรวย ตอน ชีวิตติดป๊อปที่บางกรวย”
อาทิ “วัดสวนใหญ่” วัดเก่าแก่ที่ก่อสร้างขึ้นเกือบ 200 ปีก่อน ซึ่งที่นี่มีความพิเศษคือ เป็นสถานที่อาศัยของ “นกแก้วโม่ง” มีลักษณะปากหนาสีแดงสด ขนลำตัวสีเขียวและมีแถบสีแดงขนาดใหญ่ที่ไหล่ ทั้งนี้ นกเพศเมียจะมีแถบสีแดงสั้นกว่านกเพศผู้ และไม่มีแถบสีดำ-ชมพูรอบคออย่างนกเพศผู้ นกแก้วโม่งพบได้ทั่วไปในอินเดีย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม สำหรับประเทศไทยพบได้เกือบทุกภาคยกเว้นภาคใต้
ด้วยความที่นกแก้วโม่งเป็นสัตว์ที่มนุษย์ชอบจับมาเลี้ยง ประกอบกับการขยายของพื้นที่เมืองทำให้ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติลดลง ส่งผลให้นกแก้วโม่งถูกจัดอยู่ในบัญชีคุ้มครอง 2 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่วัดสวนใหญ่กลายเป็น “ที่พักพิง” ของนกหายากชนิดนี้ เนื่องจากมี “ต้นยางใหญ่” สูงเด่นอยู่ภายในวัด โดยปัจจุบันมีความพยายามอนุรักษ์นกแก้วโม่ง รวมถึงการติดตั้ง “รังเทียม” ให้นกได้อยู่อาศัย
จากนั้นเดินทางต่อไปที่ “วัดโตนด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อสำเร็จ” พระพุทธรูปปางสมาธิ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยเหตุที่เรียกว่าหลวงพ่อสำเร็จ เนื่องจากมีผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพมาอธิษฐาขอพร โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน แล้วได้ผลสมดังปรารถนาแล้วบอกต่อกันไปเรื่อยๆ จนเป็นที่เลื่องลือ
แต่หากอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ขอแนะนำให้ไปที่ “วัดบางอ้อยช้าง” ซึ่งตั้งขึ้นตามชื่อชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยหากใครไปเยือนจะพบกับ “อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน” ผู้สถาปนากรุงธนบุรี เพราะชุมชนแห่งนี้ได้เคยสนับสนุนทั้งเสบียงอาหารและกำลังพลให้กับกองทัพของพระองค์ นอกจากนั้นยังมี “พิพิธภัณฑ์วัดบางอ้อยช้าง” เก็บรักษาของเก่าหาชมได้ยาก ซึ่งเป็นสิ่งของที่สะท้อนวิถีชีวิตของชุมชนบางอ้อยช้างและผู้คนในจังหวัดนนทบุรีมาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงสิ่งของมีค่าอย่าง “ตาลปัตรของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)” และของเก่ามีค่าทางพระพุทธศาสนาอีกหลายชิ้น
ปิดท้ายแวะมาผจญภัยในโลกพลังงานไฟฟ้าภายในศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง ชวนจุดประกายแสงแห่งความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้เรื่องไฟฟ้าใกล้ตัวอย่างสนุกสนานด้วยเทคโนยีที่ทันสมัยและเกมต่าง ๆ มากมาย
นอกจากนี้ภายในงานยังจัดกิจกรรม “จากทำมากแต่ได้น้อย..สู่ทำน้อยแต่ได้มาก” ชวนผู้ร่วมงานลงมือทำผ้าเช็ดหน้ามัดย้อมสีจากผักและผลไม้ กระทง EM รักษ์โลก พร้อมเอาใจ “สายกิน-สายช็อป” ยกร้านค้าของดีชุมชนบางกรวยกว่า 20 ร้าน ให้ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
จากนั้นจนถึงช่วงค่ำยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมชมหนังกลางแปลงริมน้ำเจ้าพระยากับหนังดังวันที่ 27 ตุลาคม 2566 เรื่อง “บัวผัน ฟันยับ” , วันที่ 28 ตุลาคม 2566 เรื่อง “แดง พระโขนง” และวันที่ 29 ต.ค. 2566 เรื่อง “จูราสสิค เวิลด์” ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ยังมีเวลาอีก 2 วัน คือ 28 และ 29 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ผู้สนใจสัมผัส “เสน่ห์บางกรวย” สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.02-436-8952-3 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี