กรมการขนส่งทางบก เชิญชวนประชาชนใช้รถพลังงานไฟฟ้า เพื่อประหยัดพลังงานแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเผยสถิติยอดการจดทะเบียนรถพลังงานไฟฟ้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กว่า 70,000 คัน
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตามนโนบายรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ในการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้าหรือ รถ EV (Electric Vehicle) เพื่อเป็นการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ผ่านมาตรการลดภาษี
ประจำปี สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ซึ่งได้ผลตอบรับจากประชาชน ในการดำเนินนโยบายดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยสถิติการจดทะเบียนรถพลังงานไฟฟ้าตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทั่วประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2565-30 ก.ย. 2566) จำนวนทั้งสิ้น 73,341 คัน เมื่อเทียบกับจำนวนการจดทะเบียนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวนทั้งสิ้น 14,696 คัน โดยมีอัตราการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น จำนวน 58,645 คัน คิดเป็น 399.05%
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการลดภาษีประจำปี สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงานและนำมาจดทะเบียน
ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พ.ย. 2568โดยให้ลดภาษีลงร้อยละ 80 จากอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ดังนี้
● รถเก๋งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 1,600 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 320 บาท
● รถตู้ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัมปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 800 บาทลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 160 บาท
● ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 50 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 10 บาท เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี