"พีระพันธุ์"ของขึ้น! บอกน้ำมันไม่ใช่หุ้น หลังเบนซินขึ้นไล่หลัง รบ.ปรับลด ฉะถ้าปล่อยเสรีตามตลาดโลก อย่ามีรัฐดีกว่า ชี้ต้องรื้อระบบโครงสร้าง ไม่ให้ประชาชนแบก
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงราคาน้ำมันเบนซิน ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน หลังรัฐบาลประกาศลดราคา 2 บาทต่อลิตร ว่า ขณะนี้รัฐบาลเพิ่งประกาศปรับลด เราต้องเข้าใจผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องเข้าใจประชาชนและรัฐบาล ตนคิดว่าราคาน้ำมันไม่ใช่หุ้น ที่จะขึ้นลงทุกนาที และทุกวัน ราคาพลังงานโลกก็แบบเดียวกัน ขึ้นลงตามสถานการณ์ แต่จะให้ประชาชนมารับภาระวิ่งขึ้นวิ่งลง ตนว่าไม่ถูกต้อง ควรจะต้องวางระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ราคาน้ำมันที่ขายให้กับประชาชน
ส่วนการขึ้นลงเป็นเรื่องระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ ต้องมาว่ากันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หากราคาน้ำมันวิ่งขึ้นวิ่งลงแบบนี้ รัฐคำนวณไม่ได้ และควบคุมไม่ได้ มองว่าเป็นระบบที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งตนกำลังศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่ ส่วนจะวางแนวทางอย่างไรนั้น นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ราคาซื้อขายน้ำมัน ที่ประชาชนซื้อจากปั๊มมีเสถียรภาพ คือมีราคาที่แน่นอน เพื่อไม่ให้ประชาชนมาแบกรับแบบทุกวันนี้ โดยจะต้องศึกษาเรื่องโครงสร้างกันใหม่หมด เพราะโครงสร้างเดิมที่ใช้กันมา นาน 20 ถึง 30 ปี ถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุง
"เพราะมันถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุง อย่างอื่นยังปรับปรุง แล้วทำไมเรื่องนี้ถึงไม่ปรับปรุงเอะอะก็อ้างเรื่องเสรี การค้าเสรี แต่ประชาชนมีปัญหา ผมว่าไม่ถูกต้อง" นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แต่ผู้ประกอบการก็บอกว่าราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น จึงขึ้นราคาตาม นายพีระพันธุ์ ย้ำว่า เป็นเรื่องระหว่างผู้ประกอบการกับภาครัฐที่ต้องหาทางให้เกิดความเหมาะสม ไม่ใช่เรื่องผู้ประกอบการกับประชาชน แล้วภาครัฐไม่ทำอะไร อย่างนี้ก็อย่ามีรัฐดีกว่า ผมว่าควรมานั่งคิดกันว่าจะวางระบบอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยลง ซึ่งจะพยายามทำให้เร็วที่สุด เพราะยังไม่เคยมีใครมาทำ มีผมคิดครั้งแรกการที่เราจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ดีกว่าไม่คิดใช่หรือไม่
"ซื้อขายน้ำมันกันประจำวันแบบนี้ มันเหมือนหุ้น อีกทั้งกองทุนน้ำมัน ก็ประชุมกันทุกวันตามราคาตลาดโลก ไม่ต้องทำอะไรกันเลย วันๆ นั่งประชุมปรับราคา งานมีตั้งเยอะ ไม่ใช่วิธีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง อันนี้ต้องแก้ไข" นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ต้องไปรื้อกฎหมายหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ก็ทั้งหมด มันเป็นเรื่องของกฎหมาย นโยบาย โครงสร้าง การบริหาร ซึ่งตนมีคณะทำงาน ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ว่ามีปัญหาใดที่ต้องแก้ไข ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็สนับสนุนตนทุกเรื่อง เพราะที่ตนทำนั้นก็ทำเพื่อประชาชน ซึ่งนโยบายก็ตรงกับนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องคิดด้วยความรอบคอบ ไม่ใช่คิดปั๊บทำปุ๊บ เพราะผลกระทบเยอะ ผู้ประกอบการ ทำระบบนี้มานาน รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เคยชินกับระบบแบบนี้ เมื่อเราจะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงก็ต้อง ค่อยค่อยดูรูปแบบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ตนคิดว่าเมื่อตนเป็นรัฐมนตรีอยู่ตรงนี้ นั่งเฉยแบบนี้ไม่ได้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี