วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ห่วงไทยเสียโอกาส! 'นพดล'เร่งรัฐบาลเจรจาเอฟทีเอ'อียู-อังกฤษ'

ห่วงไทยเสียโอกาส! 'นพดล'เร่งรัฐบาลเจรจาเอฟทีเอ'อียู-อังกฤษ'

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 14.17 น.
Tag : นพดล ปัทมะ เอฟทีเอ FTA อียู อังกฤษ
  •  

"นพดล"เร่งรัฐบาลเจรจาเอฟทีเอ ไทย-อียู และไทย-อังกฤษ ห่วงความล่าช้าทำไทยเสียโอกาสและความสามารถแข่งขัน

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.การต่างประเทศ ได้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาเอฟทีเอ Free Trade Agreement (FTA) ของไทย ทราบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีความตกลง FTA 14 ฉบับกับ 18 ประเทศคู่ค้า ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ถือเป็น FTA ฉบับล่าสุดของไทย ซึ่งการใช้สิทธิจะสามารถทำให้ผู้ส่งออกไทยลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรขาเข้า ณ ประเทศปลายทางได้ เป็นการสร้างแต้มต่อทางภาษีและกระตุ้นการสั่งซื้อได้เป็นอย่างดี


นายนพดล กล่าวต่อว่า กมธ.ต่างประเทศให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความคืบหน้าการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-อังกฤษและไทย-สหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งมีการเริ่มเจรจาในรัฐบาลที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากการรัฐประหารในปี 2557 ทางอียูได้หยุดการเจรจากับไทย และหลังการเลือกตั้งปี 2562 ก็มีการเริ่มเจรจากันใหม่ แต่ไม่คืบหน้า จนกระทั่งมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งปี 2566 จึงมีการกลับมากำหนดกลไกการเจรจาจาอีกครั้ง ตนเชื่อว่า ข้อตกลงเอฟทีเอไทย-อียู จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าไทย ดึงดูดการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผลักดันให้ GDP ของไทยขยายตัวร้อยละ 1.28  เพราะอียูเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับอียูมีมูลค่า 41,038.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 2.9% คิดเป็นสัดส่วน 7% ของการค้าไทยกับโลก นอกจากนั้นในส่วนของเอฟทีเอไทย-อังกฤษ  หลังจากที่อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกอียูในปี 2563 ไทยและอังกฤษได้ลงนาม MOU จัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ในปี 2564 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ  กมธ.เห็นว่า ควรเร่งเจรจาทำเอฟทีเอไทย-อังกฤษด้วยเช่นกัน เนื่องจากอังกฤษ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 22 ของไทย โดยในปี 2565 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 6,198.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12.25% ผลการศึกษาเรื่องการจัดทำ FTA ไทย-อังกฤษ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวประมาณ 0.04 - 0.07% และการส่งออกสินค้าของไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 777 - 1,659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายนพดล กล่าวว่า  กมธ.ประเมินว่าการเจรจาเอฟทีเอ FTA ไทย-อียู และไทย-อังกฤษล่าช้าไปร่วม 10 ปีและไม่คืบหน้าเท่าที่ควร จึงเสนอแนะรัฐบาล 3 ข้อ ดังนี้ 1.รัฐบาลควรมีเจตจำนงทางการเมืองให้ชัดเจนและกำหนดกรอบเวลาการเจรจาให้เสร็จเช่น 1 หรือ 2 ปี 2.เร่งรับฟังความเห็นของภาคส่วนที่อาจได้รับผลกระทบจากข้อตกลงเอฟทีเอและหามาตรการเยียวยาไว้ล่วงหน้า 3.นอกจากการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู ไทย-อังกฤษ แล้ว รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายการเจรจาเอฟทีเอกับประเทศในภูมิภาคอื่นๆว่าจะทำกับประเทศใดบ้าง และจะเสร็จเมื่อใด

“ส่วนตนเห็นว่า กรอบระยะเวลาในการเจรจาเอฟทีเอที่ปกติใช้เวลาประมาณ 2 ปี อาจล่าช้าเกินไป ทำให้ประเทศเสียโอกาสและความสามารถในการแข่งขันไปมาก จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนกรอบการดำเนินงานให้กระชับและรวดเร็วขึ้น และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะหยิบยกการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-อังกฤษ ในการเยือนอังกฤษเร็วๆนี้ซึ่งกมธ.จะคอยติดตามความก้าวหน้าต่อไป”

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘พิชัย’ ดันเจรจา FTA ไทย-บังกลาเทศ เจาะตลาดฮาลาล ‘พิชัย’ ดันเจรจา FTA ไทย-บังกลาเทศ เจาะตลาดฮาลาล
  • พาณิชย์รับลูกนายกฯ เดินหน้า 7 มาตรการ 25 แผนงาน พาณิชย์รับลูกนายกฯ เดินหน้า 7 มาตรการ 25 แผนงาน
  • ‘พิชัย’ ถกทูตสวีเดน ดัน FTA ไทย–EU รุกตลาดยุโรป ‘พิชัย’ ถกทูตสวีเดน ดัน FTA ไทย–EU รุกตลาดยุโรป
  • ‘DTN’เปิดเวทีให้ความรู้ ใช้ FTA เพิ่มส่งออกมะพร้าว-สับปะรด ‘DTN’เปิดเวทีให้ความรู้ ใช้ FTA เพิ่มส่งออกมะพร้าว-สับปะรด
  • ส่งออกไปตลาดคู่ FTA เพิ่ม 5% สร้างมูลค่าการค้ากว่า 3.6 แสนล้านดอลล่าร์ ส่งออกไปตลาดคู่ FTA เพิ่ม 5% สร้างมูลค่าการค้ากว่า 3.6 แสนล้านดอลล่าร์
  • พาณิชย์ เร่งศรีลังกาเดินหน้ากระบวนการภายในประเทศให้ FTA ไทย-ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็ว พาณิชย์ เร่งศรีลังกาเดินหน้ากระบวนการภายในประเทศให้ FTA ไทย-ศรีลังกา มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
  •  

Breaking News

หญ้าก็คือหญ้า! 'นายแม่ดัง'โพสต์สั้นๆแต่เจ็บจี๊ด ทำชาวเน็ตโยงสนั่น

'ปลัด กทม.'ลงพื้นที่ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ สั่งอพยพปชช.หวั่นผลกระทบควันพิษ

ต้องไม่ไร้ศักดิ์ศรี! ยก 2 เหตุสะท้อนปัญหาสังคม กับ'ค่านิยมที่ผิดเพี้ยน'

(คลิป) 3 โหรประสานเสียง 'ทักษิณ' ดวงแตก!!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved