นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 ที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งท่านนายกฯ ได้กำชับให้ส่งเสริมและผลักดันสินค้าเกษตรไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าล้นตลาด และเพื่อให้เกษตรกรขายได้ราคาสูงสุด รวมถึง การหาคู่ค้าหรือตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีอยู่กับประเทศต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำ 7 มาตรการ 25 แผนงานล่วงหน้า ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การตลาด การส่งออก ไปจนถึงการแปรรูปและอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อระบายผลไม้ 950,000 ตัน ไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศอย่างเข้มข้น ได้กำชับไปยังกรมการค้าภายในให้ดำเนินมาตรการเชิงรุก จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ร่วมกับห้างค้าปลีกชั้นนำตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล อาทิ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ห้างในเครือซีพีแอ็กซ์ตร้า เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เกษตรกรโดยตรง
และเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิตของพี่น้องเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ร่วมมือกับ 3 สมาคมใหญ่ ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้าโครงการนี้เพื่อนำปุ๋ยคุณภาพดีมาลดราคาสูงสุดกระสอบละ 50 บาท ครอบคลุมพืชทุกชนิด รวมกว่า 79 สูตร ปริมาณกว่า 10.06 ล้านกระสอบ จากผู้ประกอบการ 26 รายทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 กันยายน 2568 อีกด้วย
ในส่วนการเจรจา FTA ได้เร่งเดินหน้าโครงการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา โดยตั้งเป้าสรุปให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไทยมีความตกลงทางการค้ากับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และเสริมแต้มต่อให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยขยายตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น
สำหรับผลสำเร็จของ FTA เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2568 การส่งออกของไทยขยายตัวถึง 17.8% คิดเป็นมูลค่า 29,548.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันยอดส่งออกไตรมาสแรกโต 15.2% รวมมูลค่า 81,532.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเห็นได้ว่า การสรุปและลงนามข้อตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่มีประเทศมีกำลังซื้อสูงอย่างสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ เมื่อเดือนมกราคม 2568 มีความสำคัญมาก เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการโอกาสทางการค้าระหว่างกันในอนาคต โดยการส่งออกของไทยไปยังตลาดสวิตเซอร์แลนด์ขยายตัวต่อเนื่อง ในเดือนมกราคม 852% เดือนกุมภา 235% และเดือนมีนาคม 497%
นายพิชัย ยังกล่าวถึงโครงการ Thai SELECT ของกระทรวงว่า ขณะนี้ได้ยกระดับปรับโฉมใหม่เพื่อก้าวสู่ Global Brand โดยใช้ ‘ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้’ เป็นสัญลักษณ์ พร้อมแบ่งร้านออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Thai SELECT 1 ดาว, 2 ดาว, 3 ดาว และ Thai SELECT Casual ครอบคลุมตั้งแต่ร้านเล็กราคาย่อมเยาไปจนถึงร้านหรูระดับพรีเมียม เพื่อเพิ่มการรับรองร้านอาหารไทยในต่างประเทศและเชื่อมโยงการใช้วัตถุดิบส่งตรงจากไทย ลดต้นทุนและสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังเดินหน้าป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้าไทยส่งออก โดยอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อบริษัทต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานหลีกเลี่ยงภาษี และตรวจสอบ 65 กลุ่มสินค้าเสี่ยง พร้อมร่วมมือกับศุลกากรสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเข้มงวดการแก้ปัญหาสินค้าต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายในไทย โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 32,394 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,454 ล้านบาท และจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาทได้รวม 1,796 ล้านบาท รวมถึงสั่งถอดสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว 9,043 รายการ
ในส่วนการปราบนอมินี ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 - 31 มีนาคม 2568 ได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิด 852 ราย และมูลค่าความเสียหายรวม 15,188 ล้านบาท พร้อมกำหนดแผนการตรวจสอบนอมินี ประจำปี 2568 ซึ่งจะมีนิติบุคคลเป้าหมายที่ต้องตรวจสอบรวม 46,918 ราย
“ขอเรียนว่า กระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนทุกภารกิจเต็มที่ จากข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องการระบายผลไม้ การใช้ประโยชน์จาก FTA ฉบับต่างๆ การปรับโฉมร้าน Thai Select ไปจนถึง การแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์สินค้า และการปราบนอมินี ผมขอให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยทุกคน” นายพิชัยกล่าว
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี